ในปี 2025 ไม่มีใครในแวดวงสื่อสารองค์กรที่ไม่พูดถึง AI อีกต่อไป ความสามารถของ AI ในการสร้างคอนเทนต์ วิเคราะห์ข้อมูล และคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภค กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักประชาสัมพันธ์ทั่วโลก ไม่ใช่เพียงเพื่อ “ความเร็ว” แต่เพื่อ “กลยุทธ์” และ “ผลลัพธ์ที่เติบโตได้จริง”
จากผลสำรวจล่าสุดโดย Boston Consulting Group (BCG) ร่วมกับ Chief Marketer ระบุว่า 79% ของ CMO มั่นใจว่าเทคโนโลยี AI จะช่วยยกระดับผลลัพธ์ทางการตลาด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 71% เมื่อสองปีก่อน และที่สำคัญ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแผนจะลงทุนใน GenAI อย่างน้อยปีละ 10 ล้านเหรียญในอีก 3 ปีข้างหน้า

AI กำลังเปลี่ยนแปลงอะไรในงานประชาสัมพันธ์?
1. คอนเทนต์ไม่ได้ “เขียน” อย่างเดียวอีกต่อไป
CMO กว่า 91% ใช้ AI แปลภาษาอัตโนมัติ 80% ใช้สร้างภาพและวิดีโอแบบแอนิเมชัน และ 79% ใช้ AI เพื่อสร้างข้อความโฆษณาหลายเวอร์ชันให้เหมาะกับช่องทางต่างๆ
AI ไม่ได้ทำให้มนุษย์ตกงาน แต่มันช่วยให้นัก PR มีเวลาไปโฟกัสกับไอเดียที่ “คิดก่อนสร้าง” มากขึ้น ทำให้กลยุทธ์คอนเทนต์คมและตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น
2. จาก Reactive สู่ Predictive: คาดการณ์ก่อนเกิดวิกฤต
AI ช่วยให้นัก PR คาดการณ์เวลาที่ควรสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น (72%) รู้ว่าจะใช้ช่องทางไหนได้ผลที่สุด (76%) และแม้กระทั่งวิเคราะห์ความรู้สึกของสังคมต่อแบรนด์แบบเรียลไทม์ (78%)
ในอดีตนักสื่อสารมักตั้งรับต่อกระแส แต่ AI เปลี่ยนบทให้ PR กลายเป็นผู้คาดการณ์และวางหมากได้ก่อนเกมจะเริ่ม
3. ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพ แต่ “เติบโตได้จริง”
AI เคยถูกใช้เพื่อความเร็ว—สร้างมากขึ้นในเวลาน้อยลง แต่ตอนนี้ CMO กลับใช้มันเพื่อหา “จุดโต” ของธุรกิจ เช่น วิเคราะห์ลูกค้าที่อาจเลิกใช้บริการ แล้ววางแคมเปญเรียกคืนความสัมพันธ์แบบอัตโนมัติ
“CMO ที่เก่งใช้ AI เพื่อกำหนดอนาคต ไม่ใช่แค่จัดการปัจจุบัน” – David Edelman ที่ปรึกษาอาวุโสของ BCG กล่าวไว้ชัดเจนในรายงาน
อะไรคือประโยชน์ที่แท้จริงของ AI สำหรับนัก PR?
- ช่วยสร้าง Personalized PR
สื่อสารแบบ 1 ต่อ 1 ได้ง่ายขึ้น เช่น แนะนำสื่อหรือ influencer ที่เหมาะกับแต่ละแคมเปญ - รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม
เปรียบเทียบผลแคมเปญจาก TikTok, TV, Search Ads ด้วยชุดเครื่องมือเดียว ทำให้เห็นภาพรวมในหน้าเดียว - ลดภาระงานซ้ำซ้อน
เช่น จัดทำรายงานสรุปความคุ้มค่าของสื่อในแต่ละเดือน โดยไม่ต้องใช้เวลาหลายวันเหมือนแต่ก่อน - ช่วยคาดการณ์ ROI
ใช้ข้อมูลเก่าและพฤติกรรมลูกค้าในการคาดการณ์ว่า PR Campaign ไหนน่าจะสำเร็จมากกว่ากัน
คำแนะนำสำหรับนักประชาสัมพันธ์ยุค AI
1. อย่าแค่ใช้ AI—ให้ปรับโครงสร้างการทำงาน
คุณไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากยังทำงานแบบ silo (แยกแผนก แยกเครื่องมือ) AI ต้องการข้อมูลรวมจากทุกแหล่งเพื่อเรียนรู้และเสนอผลลัพธ์ที่แม่นยำ
2. เปลี่ยนจาก Specialist เป็น Generalist
David Edelman ระบุว่า “Marketing ได้รับผลกระทบจากความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากเกินไป” เช่น ใช้คน 13 คนในการปล่อยคอนเทนต์เดียว AI ช่วยให้ทีม lean ขึ้น แต่นั่นหมายถึงนัก PR ต้องเก่งหลายด้านมากขึ้น
3. ใช้ Human-in-the-loop ตรวจสอบทุกขั้นตอน
AI ไม่ได้แม่น 100% โดยเฉพาะในด้าน “ความรู้สึก” (Empathy) นักประชาสัมพันธ์ยังต้องเป็นตัวกรองสุดท้ายเสมอ
ทำไมคุณควรเริ่มใช้ AI ตั้งแต่วันนี้
การใช้ AI ในงานประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ “เทรนด์” แต่เป็น “การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง” ของงาน PR อย่างแท้จริง
- มันเปลี่ยนวิธีคิดจาก “ผลิตคอนเทนต์” เป็น “ออกแบบกลยุทธ์การเติบโต”
- มันให้โอกาสนัก PR ได้มีบทบาทมากขึ้นในระดับบริหาร
- มันช่วยให้งานของคุณแม่นยำ วัดผลได้ และสร้าง impact จริงในระดับองค์กร
หากคุณคือนัก PR มืออาชีพ หรือผู้บริหารฝ่ายสื่อสารที่ต้องการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน นี่คือเวลาที่ต้องเรียนรู้ ใช้ และเข้าใจ AI อย่างลึกซึ้ง เพราะ AI ไม่ได้มาแทนที่คุณ แต่มันมาเสริมให้คุณ “เป็นนักสื่อสารที่เก่งขึ้นกว่าเดิม” 💡
FAQS: ผลสำรวจล่าสุด: 79% ของ CMO ใช้ AI ขับเคลื่อนกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์เชิงรุก
Q1: องค์กรประชาสัมพันธ์ส่วนใหญ่ใช้ AI ทำอะไรบ้างในปัจจุบัน?
A1: ใช้ AI ในการแปลภาษา (91%), สร้างภาพและวิดีโอแอนิเมชัน (80%), และเขียนข้อความโฆษณาหลายเวอร์ชัน (79%)
Q2: Predictive analytics ในงาน PR คืออะไร และใช้อย่างไร?
A2: เป็นการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์เวลาที่เหมาะสมในการสื่อสาร เลือกช่องทางที่ให้ผลดีที่สุด และวิเคราะห์ความรู้สึกของสังคมแบบเรียลไทม์
Q3: CMO ส่วนใหญ่มีแผนลงทุนใน AI อย่างไร?
A3: 71% ของ CMO วางแผนลงทุนใน AI อย่างน้อย $10 ล้านต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจ
Q4: ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดจากการใช้ AI ใน PR คืออะไร?
A4: ช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น วัดผล ROI ได้แม่นยำขึ้น ปรับกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์ และสร้าง personalized content ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q5: ทำไม PR ต้องเปลี่ยนบทบาทจาก specialist เป็น generalist?
A5: เพราะ AI ลดงานเฉพาะทางอัตโนมัติ ทำให้นัก PR ต้องมีทักษะหลากหลายเพื่อทำงานข้ามฟังก์ชันและคิดกลยุทธ์ได้มากขึ้น
Q6: กลยุทธ์ที่สำคัญเมื่อนำ AI มาใช้ในองค์กรคืออะไร?
A6: ต้องวางระบบข้อมูลแบบรวมศูนย์, ใช้ AI ในทุกจุดของ workflow, และออกแบบโครงสร้างทีมให้รองรับการทำงานร่วมกับ AI
Q7: นัก PR ควรกังวลเรื่องอะไรในการใช้ AI?
A7: ความแม่นยำของเนื้อหา, ความเข้าใจเชิงอารมณ์, ความปลอดภัยของข้อมูล และการละเมิดจริยธรรมหากขาดการกำกับดูแล
Q8: วิธีใช้ AI อย่างรับผิดชอบในงาน PR คืออะไร?
A8: ต้องมีนโยบายการใช้งานที่ชัดเจน ใช้ระบบ human-in-the-loop ตรวจสอบทุกผลลัพธ์ และให้ความสำคัญกับความโปร่งใส
Q9: การวัดผลจาก AI ควรใช้เครื่องมือแบบใด?
A9: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์แบบข้ามแพลตฟอร์ม เช่น dashboard รวม TikTok, Search, TV, เพื่อประเมินผลแบบ holistic
Q10: AI ช่วยให้นักประชาสัมพันธ์มีบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นอย่างไร?
A10: ช่วยให้นัก PR วิเคราะห์ข้อมูลได้ลึกขึ้น ออกแบบแคมเปญเชิงรุก และสื่อสารได้ตรงจุดจนสามารถนั่งร่วมโต๊ะบริหารในระดับ C-suite ได้
เรียบเรียงโดย

สราวุธ บูรพาพัธ
สราวุธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต
จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย