2025 ถือเป็นปีที่วงการ PR ต้องจับตา เมื่อ OpenAI เปิดตัว GPT‑5 ซึ่งมีคุณสมบัติเก่งกว่าเดิม ทั้งด้านความเร็ว ความแม่นยำ และการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเปลี่ยนจากเครื่องมือเขียนทั่วไปเป็น “เพื่อนร่วมคิด” ที่เข้าใจงานสื่อสารได้ในระดับสูง สำหรับนักสื่อสารที่สร้าง content เป็นหัวใจหลัก GPT‑5 ช่วยให้ทำงานได้ทั้งเร็วขึ้น แม่นขึ้น และล้ำขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการ แต่ในโลกของการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ (Public Relations: PR) ผลกระทบยิ่งเห็นชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่การเขียนข่าวประชาสัมพันธ์ การสร้างคอนเทนต์ ไปจนถึงการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนักประชาสัมพันธ์หรือทีมสื่อสารองค์กรที่กำลังสงสัยว่า “เราจะเริ่มใช้ AI ยังไงให้ไม่เสียเวลา ไม่หลงเครื่องมือ และไม่ดูเท่แค่ช่วงแรก?” เพราะตอนนี้หลายองค์กรเริ่มใช้ AI กันจริงจังแล้ว แต่มีไม่กี่ที่เท่านั้นที่ “ทำให้เกิดผลจริง” มาเรียนรู้ว่า ทีมที่ใช้งาน AI อย่างมีระบบ เขาทำอะไรบ้าง
ในปี 2025 ไม่มีใครในแวดวงสื่อสารองค์กรที่ไม่พูดถึง AI อีกต่อไป ความสามารถของ AI ในการสร้างคอนเทนต์ วิเคราะห์ข้อมูล และคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภค กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักประชาสัมพันธ์ทั่วโลก ไม่ใช่เพียงเพื่อ “ความเร็ว” แต่เพื่อ “กลยุทธ์” และ “ผลลัพธ์ที่เติบโตได้จริง”
ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกการทำงานอย่างรวดเร็ว ความสามารถขององค์กรในการสื่อสารภายในอย่างมีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นหัวใจหลักของการบริหารความเปลี่ยนแปลง การที่พนักงานรู้สึกมั่นใจ ไว้ใจ และเข้าใจบทบาทของ AI ในงานประจำวันนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากนโยบายเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการสื่อสารที่ชัดเจน จริงใจ และทันเวลา โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านเช่นนี้ นักสื่อสารองค์กรจึงมีบทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าผู้บริหารระดับสูง
ในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าเคย การเปลี่ยนแปลงทางองค์กรกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการควบรวมกิจการ การลดต้นทุน การปรับเปลี่ยนโครงสร้าง หรือแม้กระทั่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่กระบวนการเดิมๆ ท่ามกลางคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้น “พนักงาน” กลับกลายเป็นผู้รับผลกระทบที่สำคัญที่สุด
ในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นสนามรบท่ามกลางอารมณ์ผู้บริโภค การจัดการชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ไม่อาจล่าช้า เสียงสะท้อนเพียง 5–10 โพสต์ที่มีอารมณ์เชิงลบในเวลาแค่ไม่กี่นาที ก็สามารถปะทุเป็นวิกฤตแรงได้ ในบทความนี้ ผมจะพานักประชาสัมพันธ์เข้าใจบทเรียนจากกรณี Coca‑Cola และเครื่องมือ AI ที่ช่วย “จับอารมณ์” ได้ก่อนเกิดวิกฤตอย่างไร พร้อมกลยุทธ์ที่ปฏิบัติได้จริงในงาน PR
ในยุคที่คำถามของผู้ใช้เริ่มต้นที่ “ChatGPT ว่าไง” มากกว่า “Google ว่าไง” นั่นแปลว่าเรากำลังเข้าสู่โลกใหม่ของประชาสัมพันธ์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป นักประชาสัมพันธ์ (PR) ต้องรู้เท่าทัน AI ต้องเข้าใจว่าโมเดลภาษาใหญ่ หรือ Large Language Models (LLM) อย่าง ChatGPT, Gemini, Claude และ Perplexity กำลังเปลี่ยนแปลงการค้นหาข้อมูลอย่างไร และทำอย่างไรให้ “ข่าวประชาสัมพันธ์ของคุณ” ถูกหยิบยกขึ้นมาแสดงในคำตอบของ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าโลกธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในหมู่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือที่รู้จักกันในนาม “SMB” ที่เริ่มเห็นพลังของ AI เป็นโอกาสในการเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และตอบสนองผู้บริโภคได้ตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บางครั้ง เทคโนโลยีไม่ได้เกิดมาเพื่อแทนที่มนุษย์ แต่เพื่อ “เข้าใจ” มนุษย์ในทุกจังหวะชีวิต และนี่คือความพยายามครั้งสำคัญของ Grab ที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก ‘แอปเรียกรถ’ ไปสู่ ‘ผู้ช่วยชีวิตประจำวัน’ ของผู้คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้แนวคิด “For Every You”
เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่ได้เป็นเพียง buzzword ที่พูดถึงกันในห้องประชุมของบริษัทยักษ์ใหญ่อีกต่อไป หากแต่กำลังค่อย ๆ ไหลบ่าเข้าสู่กระดูกสันหลังของผู้ประกอบการขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด — คำถามคือ “เราพร้อมแค่ไหน?”
ในยุคที่โลกหมุนเร็วกว่าเดิม เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวง การตลาด (Marketing) และ การประชาสัมพันธ์ (PR) จากรายงานล่าสุด State of AI in Marketing Report 2025 by CoSchedule เผยให้เห็นว่า 85% ของนักการตลาดทั่วโลกใช้งาน AI เพื่อสร้างคอนเทนต์และวางแผนกลยุทธ์ และกว่า 75% รู้สึกว่า AI ช่วยให้ได้เปรียบคู่แข่ง
