fbpx

อาคารพดด้วง สถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 21 ภายนอกว่าสวยแล้ว…แต่ข้างใน ฉลาดกว่าที่คุณคิด!

เมื่อพูดถึง “อาคารราชการ” ภาพในหัวของหลายคนอาจยังเป็นตึกคอนกรีตสีหม่น ๆ เต็มไปด้วยทางเดินยาวเหยียด แสงไฟนีออน และการทำงานแบบระบบเดิม ๆ แต่สิ่งเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนไป และโครงการ “ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C” คือภาพสะท้อนของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการออกแบบ แต่คือการประกาศจุดยืนใหม่ของ “สถาปัตยกรรมภาครัฐ” ในศตวรรษที่ 21

ภายใต้แนวคิด “A Low-Carbon City Working with Nature” หรือ “เมืองคาร์บอนต่ำที่ทำงานร่วมกับธรรมชาติ” บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ ธพส. ได้พัฒนาโครงการนี้ให้กลายเป็นต้นแบบของเมืองราชการยุคใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนรูปลักษณ์ของอาคาร แต่ยังเปลี่ยนความคิดและการทำงานของภาครัฐทั้งหมดให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่อย่างสมดุล

สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่แค่อาคารที่สวยหรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่คือ “ระบบนิเวศราชการ” ที่มีชีวิต หายใจได้ และเข้าใจผู้คน

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

พลังงานสะอาด: จากผู้บริโภคสู่ผู้ผลิต

หนึ่งในหัวใจสำคัญของแนวคิดสถาปัตยกรรมศตวรรษที่ 21 คือการเปลี่ยนบทบาทของอาคารจาก “ผู้บริโภค” สู่ “ผู้ผลิต” ซึ่งในกรณีของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C นั้น มีการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ร่วมกับเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานขั้นสูง ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดได้ถึง 2,200 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อวัน เพื่อใช้ในอาคารอย่างยั่งยืน

นี่คือการพลิกบทบาทของอาคารราชการจากแค่ “ผู้ใช้งบประมาณ” ไปเป็น “ผู้สร้างผลลัพธ์เชิงบวก” ให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในภาพจำของอาคารราชการมาก่อน

“อาคารพดด้วง”: พื้นที่ราชการที่ทุกคนเข้าถึงได้

ในเชิงการออกแบบ “อาคารพดด้วง” ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของ “เงินพดด้วง” สื่อถึงความมั่งคั่งและความมั่นคง ซึ่งไม่ใช่แค่แนวคิดเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างสถาปัตยกรรมที่มั่นคงกับชุมชน มีราก มีความหมาย และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง

อาคารแห่งนี้ยังผสมผสานภูมิปัญญาไทยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในแบบ “อารยสถาปัตย์” (Universal Design) ให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ หรือบุคคลทั่วไป สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เท่าเทียม และปลอดภัย มีพื้นที่เปิดโล่งสำหรับทำงาน ร่วมกิจกรรม และพักผ่อน เป็นการออกแบบพื้นที่ที่ “เข้าใจมนุษย์” ไม่ใช่แค่ “ออกแบบตามแบบแปลน”

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

เทคโนโลยีที่ “มองไม่เห็น” แต่รู้สึกได้

ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่สถาปัตยกรรมยุคใหม่ทำได้ดี คือการใส่เทคโนโลยีเข้าไปในทุกอณูของอาคาร โดยไม่ให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่า “โดนควบคุม” แต่กลับรู้สึก “ถูกดูแล”

ในอาคารพดด้วง เปลือกอาคารใช้ระบบ Solar Shield ที่ช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ถึง 37% พร้อมระบบทำความเย็นแบบพาสซีฟ (Passive Cooling) ร่วมกับ District Cooling และพื้นเปล่งรังสี (Radiant Floor) ช่วยให้ภายในอาคารเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งพาแอร์เต็มรูปแบบ ช่วยลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบกรองอากาศระดับ MERV-13 ยังสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก รวมถึง PM2.5 และไวรัสบางชนิด ทำให้คนที่ใช้อาคารสามารถหายใจได้อย่างมั่นใจ ทุกครั้งที่เข้าไปในพื้นที่

เมื่อ “สวนลอยฟ้า” ไม่ใช่แค่ความงาม แต่คือระบบนิเวศจริง

สวนลอยฟ้าขนาดกว่า 19,900 ตารางเมตร บนหลังคาอาคาร ไม่ได้มีไว้เพื่อถ่ายรูปเล่น หรือเพิ่มมูลค่าทางการตลาดเท่านั้น แต่คือส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่ทำงานร่วมกับตัวอาคารโดยตรง พืชพรรณเขียวขจีรอบอาคารช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดอุณหภูมิ ทำหน้าที่เป็นฉนวนธรรมชาติ และเสริมสุขภาวะให้กับผู้คนในพื้นที่ทั้งในเชิงร่างกายและจิตใจ

ทั้งหมดนี้คือการออกแบบที่ “ฟังเสียงธรรมชาติ” และใช้มันเป็นพลังร่วมในการสร้างเมือง ไม่ใช่แค่การสร้างตึกให้สูงหรือใหญ่ขึ้น

ไม่ใช่แค่โครงสร้าง แต่คือสัญลักษณ์ของราชการใหม่

ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ ธพส. ได้กล่าวไว้อย่างน่าประทับใจว่า “โครงการพัฒนาศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C ไม่ใช่แค่โครงสร้าง แต่คือสัญลักษณ์ของเมืองราชการยุคใหม่ที่หายใจได้ เชื่อมโยงคน เมือง เทคโนโลยี และธรรมชาติอย่างสมดุล”

คำพูดนี้สรุปได้ดีถึงภาพใหญ่ของโครงการ ว่านี่ไม่ใช่แค่การสร้างอาคาร แต่คือการปฏิรูประบบความคิดของราชการ ผ่านสถาปัตยกรรม ที่ให้คุณภาพชีวิตของคนรุ่นต่อไปอยู่เหนือระบบราชการแบบเดิม ๆ

ต่อเนื่องจากแนวคิดที่ว่า “สถาปัตยกรรมไม่ใช่แค่โครงสร้าง” สิ่งที่เกิดขึ้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C จึงเป็นเหมือนกับการประกาศความเปลี่ยนแปลงในระดับรากฐาน ไม่ใช่แค่เรื่องสถาปัตยกรรม แต่ลึกลงไปถึง “ทัศนคติของระบบราชการไทย” ที่กำลังขยับเข้าใกล้ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

พื้นที่ที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง

หนึ่งในจุดแข็งของการออกแบบศูนย์ราชการแห่งนี้ คือการวาง “มนุษย์” ไว้ที่ใจกลางของทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดให้ใช้สำหรับทำงานร่วมกัน การพักผ่อน หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ ที่ไม่ถูกแบ่งแยกด้วยความเป็น “ราชการ” แต่กลับเปิดโอกาสให้ “คนทั่วไป” ได้มีส่วนร่วม

พื้นที่แต่ละส่วนในอาคารพดด้วง ถูกจัดวางอย่างรอบคอบเพื่อรองรับการใช้งานของประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ หรือคนทั่วไปต่างสามารถเข้าถึงได้แบบไม่รู้สึกถูกจำกัดหรือเลือกปฏิบัติ อารยสถาปัตย์ที่ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่กลายเป็นจริงด้วยทางลาด ลิฟต์กว้าง ห้องน้ำพิเศษ และการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อทุกคน

นี่คือความงามที่มากกว่าการตกแต่ง คือการออกแบบด้วยหัวใจ และมองมนุษย์ในความหลากหลายอย่างเท่าเทียม

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

เมืองที่หายใจได้: ต้นแบบของ “ราชการแห่งอนาคต”

“เมืองราชการที่หายใจได้” นี่คือ นิยามอาคารราชการใหม่ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเมือง (Urban Ecosystem) ที่มีชีวิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกในยุควิกฤตภูมิอากาศ

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C ไม่เพียงแต่ดูดซับมลพิษผ่านพืชพรรณธรรมชาติ ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนด้วยวัสดุก่อสร้างกว่า 60% ที่มาจากภายในประเทศ ลดการขนส่ง ลดมลพิษ พร้อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบราชการไทยที่สามารถพัฒนา “อาคารอัจฉริยะด้านคาร์บอน” ได้อย่างเป็นรูปธรรม

แน่นอนว่า โมเดลนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นทั่วประเทศทันทีในวันพรุ่งนี้ แต่อย่างน้อย มันคือสัญญาณแห่งความหวังว่า “ราชการไทย” กำลังตื่นตัว และพร้อมจะเคลื่อนเข้าสู่อนาคตไปพร้อมกับโลก

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

เพราะอาคารไม่ใช่แค่ของวันนี้

สิ่งที่ศูนย์ราชการฯ อาคาร C ทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนคือ อาคารแห่งศตวรรษที่ 21 ไม่ควรมีแค่ความสวยงาม ความมั่นคง หรือเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ควรมี “เจตจำนง” ที่ชัดเจนในการอยู่ร่วมกับโลกอย่างเคารพ ไม่เบียดเบียน และพัฒนาไปด้วยกัน

เพราะในท้ายที่สุด สถาปัตยกรรมก็คือกระจกสะท้อนความคิดของผู้คนในยุคสมัยนั้น ๆ และอาคารแห่งนี้กำลังพูดกับเราว่า “อนาคต” ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของ “เราทุกคน” ที่อยู่ร่วมกันบนโลกใบเดียวกัน

หากคุณมีโอกาสได้เดินผ่านอาคารพดด้วง หรือแม้เพียงแค่เห็นภาพของศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C ลองมองให้ลึกไปกว่ารูปทรง มองเข้าไปถึงสิ่งที่อาคารนั้นกำลัง “ทำ” ไม่ใช่แค่ “เป็น” แล้วคุณจะรู้ว่า อนาคตของสถาปัตยกรรมไทย กำลังเติบโตอย่างมั่นคง เงียบงาม และเต็มไปด้วยความหวัง


FAQs: อาคารพดด้วง สถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 21 ภายนอกว่าสวยแล้ว…แต่ข้างใน ฉลาดกว่าที่คุณคิด!

อาคารพดด้วง สถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 21 ภายนอกว่าสวยแล้ว…แต่ข้างใน ฉลาดกว่าที่คุณคิด!

Q1: อาคารพดด้วงคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?

A1: อาคารพดด้วงเป็นอาคารต้นแบบภายในโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคาร C ออกแบบด้วยแนวคิด “เมืองคาร์บอนต่ำ” และเป็นต้นแบบของ “สถาปัตยกรรมแห่งศตวรรษที่ 21” ที่เชื่อมโยงคน เมือง พลังงานสะอาด และธรรมชาติได้อย่างสมดุล 

Q2: เหตุใดอาคารนี้จึงถูกเรียกว่า “พดด้วง”?

A2: ได้รับแรงบันดาลใจจาก “เงินพดด้วง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ความมั่งคั่ง และการอยู่ร่วมกับชุมชนในสังคมไทยอย่างยั่งยืน 

Q3: อะไรคือจุดเด่นด้านพลังงานของอาคารพดด้วง?

A3: อาคารใช้โซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าสะอาดกว่า 2,200 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อวัน ร่วมกับระบบ Passive Cooling, Radiant Floor และ District Cooling เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายใน ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

Q4: การออกแบบส่งเสริมสิ่งแวดล้อมอย่างไร?

A4: อาคารใช้วัสดุก่อสร้างจากแหล่งผลิตในประเทศกว่า 60% ลดคาร์บอนจากการขนส่ง มีพืชพรรณรอบอาคารทำหน้าที่เป็นฉนวนธรรมชาติ พร้อมสวนลอยฟ้ากว่า 19,900 ตร.ม. ที่ช่วยดูดซับ CO₂ และลดอุณหภูมิ 

Q5: อาคารนี้ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้อย่างไร?

A5: ติดตั้งระบบกรองอากาศ MERV-13 ที่กรองฝุ่น PM2.5 และอนุภาคเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้กว่า 85% รวมถึงไวรัสและแบคทีเรียบางชนิด ทำให้อากาศภายในสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ 

Q6: อาคารพดด้วงรองรับประชาชนทุกกลุ่มได้หรือไม่?

A6: ใช่ อาคารออกแบบตามแนวคิด “อารยสถาปัตย์” หรือ Universal Design มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทุกคนเข้าถึงได้ เช่น ทางลาด ลิฟต์ ห้องน้ำสำหรับผู้พิการ และพื้นที่ใช้งานแบบไม่มีข้อจำกัด 

Q7: อาคารนี้ตอบโจทย์ “ชีวิตยุคใหม่” อย่างไรบ้าง?

A7: มีพื้นที่เปิดให้ใช้งานร่วมกัน เช่น พื้นที่ทำงานแบบ co-working, พื้นที่พักผ่อน และพื้นที่กิจกรรมสร้างสรรค์ รองรับการใช้ชีวิตแบบยืดหยุ่น ไม่จำกัดเพียงการทำงานราชการอย่างเดียวอีกต่อไป 

Q8: อาคารพดด้วงช่วยเรื่องการลดมลพิษในเมืองได้จริงหรือ?

A8: จริง อาคารช่วยดูดซับคาร์บอน ลดการปล่อยมลพิษจากระบบพลังงานและวัสดุก่อสร้าง พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง และควบคุมมลภาวะในอากาศได้จริงตามระบบที่ติดตั้งไว้ 

Q9: อาคารนี้มีความเป็นนวัตกรรมในแง่ใดบ้าง?

A9: ผสานเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะกับการออกแบบเพื่อความยั่งยืน เช่น ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ การควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ การกรองอากาศขั้นสูง และการบริหารพลังงานแบบครบวงจร 

Q10: อาคารพดด้วงถือเป็นต้นแบบให้กับใคร?

A10: เป็นต้นแบบให้ภาครัฐและเอกชนในการออกแบบพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้าใจมนุษย์ และพร้อมรองรับอนาคตของเมืองที่ต้องสมดุลทั้งคน เทคโนโลยี และธรรมชาติ 


Author

  • PR Matter

    เบื้องหลังบทความคุณภาพทุกชิ้นบน พีอาร์แมทเทอร์ (PR Matter Editorial Team) คือ ทีมกองบรรณาธิการที่รวมตัวกันจากนักเขียน นักข่าว นักพีอาร์ และครีเอทีฟผู้มีประสบการณ์จริงในวงการสื่อสาร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ด้วยความมุ่งมั่นในการ “อัปเดตองค์ความรู้ เชื่อมโยงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับนักสื่อสาร นักพีอาร์ นักการตลาด และผู้นำองค์กรทั่วประเทศ พวกเราจึงใส่ใจในทุกถ้อยคำ ตรวจสอบทุกข้อมูล และเขียนทุกบทความด้วยหัวใจของมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญของทีม ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์ การสื่อสารองค์กร การจัดการวิกฤต ไปจนถึงการเล่าเรื่องแบบเจาะลึก ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงสร้างสรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *