fbpx

ล้วงลึกมิจฉาชีพหางานออนไลน์: กับดักที่รอเหยื่อใหม่จากกลุ่มเปลี่ยนอาชีพ

ในโลกการทำงานยุคดิจิทัล การเปลี่ยนอาชีพกลายเป็นเรื่องปกติของผู้คนในหลายช่วงวัย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านความก้าวหน้า ความมั่นคง หรือความสุขในชีวิต อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เทคโนโลยีทำให้การหางานง่ายขึ้น ก็ทำให้ “กลโกงการสมัครงาน” แพร่หลายและซับซ้อนยิ่งขึ้นด้วย

จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดย SEEK บริษัทแม่ของ Jobsdb และ Jobstreet ได้สะท้อนให้เห็นเทรนด์กลโกงการหางานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทยที่เริ่มมีการเปลี่ยนอาชีพมากขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนวิถีทำงาน กลายเป็นจุดเปราะบางของกลุ่มเป้าหมายที่อาจเผชิญกับภัยหลอกลวงโดยไม่รู้ตัว

มิจฉาชีพ

สถานการณ์ในเอเชียแปซิฟิก

ในช่วงกรกฎาคม 2567 ถึงมิถุนายน 2568 ระบบของ SEEK ได้สแกนประกาศงานกว่า 4.3 ล้านรายการทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และพบว่าตำแหน่ง “ธุรการและสำนักงาน” เป็นเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพ คิดเป็น 29% ของประกาศงานปลอมทั้งหมด

อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ถูกโจมตีมากที่สุด โดย 38% ของประกาศหลอกลวงทั้งภูมิภาคอยู่ที่นี่ ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ (20%) และกลุ่มงานที่ได้รับผลกระทบมาก ได้แก่ การผลิต การขนส่ง และโลจิสติกส์

ใน ANZ (ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) กลับพบว่า งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) คือกลุ่มเสี่ยงสูงสุด สะท้อนบริบทตลาดแรงงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

กรณีประเทศไทย

แม้ประเทศไทยจะมีปริมาณประกาศงานปลอมน้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค แต่กลับมีการกระจุกตัวในตำแหน่ง “งานขาย” สูงถึง 67% รองลงมาคือบัญชี และงานด้านโฆษณา/ศิลปะ ที่อย่างละ 17%

สาเหตุหลักมาจากรูปแบบงานเหล่านี้มักเสนอค่าตอบแทนแบบค่าคอมมิชชันสูง รายได้เร็ว ไม่มีข้อจำกัดด้านวุฒิหรือประสบการณ์ จึงดึงดูดผู้ที่กำลังเปลี่ยนอาชีพหรือหางานแบบเร่งด่วน โดยเฉพาะในยุคที่หลายคนหันหลังให้กับงานประจำแบบเดิม ๆ

กลโกงใหม่: ใช้ AI และปลอมตัวตน

SEEK พบว่าเทคนิคใหม่ของมิจฉาชีพคือการใช้ AI เข้ามาช่วยสร้างประกาศงานปลอมให้ดูน่าเชื่อถือ ทั้งข้อความอัตโนมัติที่ใช้หลอกล่อผู้สมัครผ่าน SMS, แอปฯ แชท หรือโซเชียลมีเดีย โดยแอบอ้างเป็น Jobsdb, Jobstreet หรือบริษัทใหญ่ ๆ

อีกหนึ่งเทคนิคคือการให้โอน “ค่าธรรมเนียมแรกเข้า” หรือ “ค่าเอกสาร” ก่อนเริ่มงาน ซึ่งในความจริงแล้ว บริษัทจ้างงานมืออาชีพไม่ควรเรียกเก็บเงินจากผู้สมัคร

มาตรการจาก SEEK

เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ SEEK ใช้ทั้งระบบอัตโนมัติและทีม Trust & Safety ตรวจสอบประกาศงานทุกชิ้น 100% พร้อมบล็อกประกาศต้องสงสัยกว่า 2,800 รายการ และป้องกันนายจ้างกว่า 3,600 รายที่ไม่ผ่านการตรวจสอบไม่ให้เข้าแพลตฟอร์ม

ผู้สมัครยังสามารถรายงานประกาศต้องสงสัยกว่า 22,000 รายการ ซึ่งจะถูกตรวจสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

ข้อแนะนำสำหรับผู้เปลี่ยนอาชีพ

  1. หลีกเลี่ยงการสมัครงานที่ต้องจ่ายเงินก่อนเริ่มงาน
  2. ตรวจสอบข้อมูลบริษัทผ่านช่องทางทางการ เช่น เว็บไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือโซเชียลมีเดียขององค์กร
  3. ระวังงานที่โฆษณาว่า “ได้เงินไว”, “ค่าคอมมิชันสูง”, หรือ “ไม่ต้องมีประสบการณ์”
  4. ใช้แพลตฟอร์มหางานที่เชื่อถือได้ เช่น Jobsdb by SEEK
  5. ไม่คลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า

การเปลี่ยนอาชีพในยุคดิจิทัลเป็นโอกาสใหม่ของชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงใหม่ที่ต้องรู้เท่าทัน โดยเฉพาะกลโกงที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและปรับตามพฤติกรรมผู้หางาน

สิ่งสำคัญคือความรู้ ความระวัง และการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ปลอดภัย พร้อมเข้าใจสัญญาณเตือนต่าง ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนอาชีพของคุณเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่มั่นคง ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการตกเป็นเหยื่อ


FAQs: ล้วงลึกมิจฉาชีพหางานออนไลน์: กับดักที่รอเหยื่อใหม่จากกลุ่มเปลี่ยนอาชีพ

Q1: กลโกงสมัครงานออนไลน์ในยุคปัจจุบันมีลักษณะอย่างไร?
A1: กลโกงสมัครงานออนไลน์มีการใช้เทคโนโลยี AI ปลอมข้อความสมัครงานในชื่อบริษัทใหญ่ ผ่าน SMS, แอปฯ แชท และโซเชียลมีเดีย โดยหลอกให้ผู้สมัครจ่ายเงินก่อนเริ่มงาน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

Q2: กลุ่มใดคือเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพในเอเชียแปซิฟิก?
A2: กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้สมัครตำแหน่งงานระดับเริ่มต้น โดยเฉพาะงานด้านธุรการ สำนักงาน การผลิต ขนส่ง และโลจิสติกส์

Q3: ประเทศใดในเอเชียแปซิฟิกที่พบการหลอกลวงสูงสุด?
A3: อินโดนีเซียพบอัตราการหลอกลวงสูงสุด คิดเป็น 38% ของทั้งภูมิภาค ตามด้วยฟิลิปปินส์ที่ 20%

Q4: สถานการณ์ของไทยแตกต่างจากประเทศอื่นอย่างไร?
A4: แม้ไทยมีจำนวนประกาศงานปลอมน้อยกว่า แต่มีการกระจุกตัวสูงใน “งานขาย” ถึง 67% ของประกาศหลอกลวงทั้งหมด

Q5: เหตุใดกลุ่มผู้เปลี่ยนอาชีพจึงตกเป็นเหยื่อได้ง่าย?
A5: เพราะมักมองหางานเร่งด่วน รายได้ดี และไม่ระมัดระวัง ตรวจสอบไม่รอบด้าน จึงตกเป็นเป้าหมายของกลโกงที่ใช้คำโฆษณาลวง เช่น “ค่าคอมสูง”, “เริ่มงานได้ทันที”

Q6: วิธีสังเกตประกาศงานปลอมมีอะไรบ้าง?
A6: มีการเรียกเก็บเงินก่อนเริ่มงาน, ไม่ระบุข้อมูลบริษัทชัดเจน, ใช้ช่องทางติดต่อไม่เป็นทางการ, และเสนอค่าตอบแทนสูงเกินจริง

Q7: SEEK มีมาตรการป้องกันอย่างไร?
A7: ใช้ระบบสแกนและทีม Trust & Safety ตรวจสอบประกาศงานทั้งหมด, ปิดบัญชีนายจ้างต้องสงสัยกว่า 650 ราย และลบประกาศปลอมกว่า 2,800 รายการ

Q8: ผู้สมัครสามารถมีส่วนร่วมป้องกันได้อย่างไร?
A8: ผู้สมัครสามารถรายงานประกาศต้องสงสัยผ่านแพลตฟอร์ม Jobsdb/Jobstreet และไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลไม่รู้จัก

Q9: ช่องทางใดที่สามารถติดตามข้อมูลความปลอดภัยจาก SEEK ได้?
A9: สามารถเข้าชม “ศูนย์ความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว” ได้ที่ https://th.jobsdb.com/th/security-hub

Q10: ข้อควรระวังสำคัญที่สุดสำหรับผู้เปลี่ยนอาชีพคืออะไร?
A10: อย่าเร่งรีบสมัครงานโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลบริษัท, หลีกเลี่ยงงานที่ต้องโอนเงินก่อน และใช้เฉพาะแพลตฟอร์มที่ผ่านการตรวจสอบ


Author

  • PR Matter

    เบื้องหลังบทความคุณภาพทุกชิ้นบน พีอาร์แมทเทอร์ (PR Matter Editorial Team) คือ ทีมกองบรรณาธิการที่รวมตัวกันจากนักเขียน นักข่าว นักพีอาร์ และครีเอทีฟผู้มีประสบการณ์จริงในวงการสื่อสาร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ด้วยความมุ่งมั่นในการ “อัปเดตองค์ความรู้ เชื่อมโยงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับนักสื่อสาร นักพีอาร์ นักการตลาด และผู้นำองค์กรทั่วประเทศ พวกเราจึงใส่ใจในทุกถ้อยคำ ตรวจสอบทุกข้อมูล และเขียนทุกบทความด้วยหัวใจของมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญของทีม ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์ การสื่อสารองค์กร การจัดการวิกฤต ไปจนถึงการเล่าเรื่องแบบเจาะลึก ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงสร้างสรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *