หลังจากผู้บริหารระดับสูงของ Uber ได้เกิดไอเดียบรรเจิดบนโต๊ะอาหารค่ำว่า จะอัดฉีดงบ 1 ล้านเหรียญจ้างนักสืบหัวเห็ดไปสืบเสาะประวัติร้ายๆ ของนักข่าวตัวดีที่ไม่เป็นมิตรกับองค์กร แล้วให้จัดการสื่อคนนั้นเสีย เหมือนกับที่สื่อนั้นทำกับองค์กร แรง!!! ท่ามกลางกลุ่มสื่อมวลชนนิวยอร์ค โอว!!! ไม่นะ!!!

ทั้งนี้ ผู้บริหารคนดังกล่าว คิดว่าสิ่งที่ตนเองพูดนั้นถือเป็นแบบไม่ทางการ อย่างที่วงการเรียกว่า Off Record พูดให้กันฟังเฉพาะพี่น้อง เมื่อสิ้นเสียงคำกล่าว นักข่าว Tweet ถ้อยความดังกล่าวทันที ก็ไม่มีใครบอกนี่ว่า สิ่งที่ท่านพูด นั้น บอกต่อไม่ได้ ไม่มีใครบอกว่า Off Record เสียหน่อย
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อความรู้สึกของหลายคน รวมทั้งนักข่าวในสถานการณ์ดังกล่าว คือ ความก้าวร้าว ขาดความเป็นผู้นำ ไร้มนุษยธรรม เกินไป
ผลที่เกิดขึ้นคือ เกิดกระแสสังคมให้ไล่ผู้บริหารคนนี้ออกเสียแล้ว OMG
บทเรียนครั้งนี้ ต่อวงการวิชาชีพประชาสัมพันธ์หรือพีอาร์
- การหาคำจำกัดความว่า อะไรที่ควร Off Record ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครจะสามารถห้ามใครได้ที่จะไปพูดหรือเล่าต่อเรื่องราวได้ ดังนั้น สิ่งใดควร Off หรือ ไม่ Off Record ไม่ต้องคิด คิดแต่ว่า สิ่งใดควรจะพูดหรือไม่ควรพูดเท่านั้น เพราะอะไรยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ประเภทที่บอกว่า อย่าไปบอกใครนะ นั่นละ รับรู้กันทั่วถึงแน่นอน
- การอยู่ในสถานการณ์ที่สบายๆ เป็นกันเอง อย่างรับประทานอาหารค่ำอย่างไม่เป็นกันเอง กับ กลุ่มนักข่าวหรือสื่อมวลชน อย่าลืมเตือนสติและตอกย้ำผู้บริหารถึงบทบาทและหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีสุราและไวน์มาเกี่ยวข้อง จะทำให้สติอาจจะขาดได้ ทำให้ผู้บริหารกล้าที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นโดยมิได้ทันระมัดระวังตัว
- หากพลาดพลั้งไป ผู้บริหารพูดบางเรื่องที่ไม่ควรพูด ซึ่งอาจจะกระทบต่อความรู้สึก และการดำเนินงานขององค์กร เป็นหน้าที่ที่พีอาร์จะต้องแสดงบทบาทบ้าง ด้วยการขอความร่วมมือกับนักข่าวว่า ฝาก Off Record เรื่องดังกล่าวไว้ด้วย แต่ควรทำอย่างทันที มิใช่ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วค่อยนึกได้
อย่างไรก็ตาม มีหลักบางประการให้พีอาร์ได้จดจำไว้ ได้แก่
“Off the record” มีความหมายต่างกันไปในแต่ละบุคคล นักข่าวหลายท่าน อาจตีความได้ว่า ข้อมูลนั้นสามารถใช้ได้ แต่ใช้ได้เฉพาะบางคน คนที่พูดมากหรือปากโป้ง ไม่ควรรับรู้ แต่ขณะที่นักข่าวอีกหลายท่าน อาจตีความหมายได้ว่า ข้อมูลนั้นไม่ควรเผยแพร่สาธารณชน แต่สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบในส่วนอื่นๆ ได้
นักข่าวส่วนใหญ่มีความชัดเจนหากคุยกันเคลียร์ๆ บางครั้งเรื่องที่หลุดออกไป หากมีการบอกกล่าวกันชัดเจนว่า ขอระงับเรื่องนี้ไว้ อย่าเผยแพร่สาธารณชน นักข่าวอาจจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจ แต่หากคุยกันชัดเจน เขาก็ยินดีที่จะทำตาม เพราะไม่มีใครอยากทำสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อคนอื่น ที่สำคัญ นักข่าวเกือบทั้งหมด ยึดมั่นในคำสัญญา หากรับปากสิ่งใดแล้ว เขาจะไม่ทำแน่นอน แต่ต้องคุยกันชัดเจนเป็นกิจลักษณะนะ
อะไรที่หลุดปากออกไปแล้ว อย่าพยายามไปท้าวความหรือแก้ไข หลายครั้งที่ผู้บริหารพลาดหรือลูกค้าพลาดไปแล้ว มักจะพยายามแก้ไขคำที่กล่าวไปนั้น จำไว้ หากพูดไปแล้ว ให้รีบจัดการ แต่ไม่ใช้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ หรือขอถอนคำพูด เพราะข้อมูลหรือข้อความนั้นจะไม่หายไป ยิ่งเป็นเรื่องเด็ดๆ นักข่าวเห็นเป็นประเด็นสำคัญ จะรีบตีพิมพ์เลยทีเดียว ส่วนจะจัดการอย่างไร พีอาร์สมองใสจะเป็นผู้จัดการ
การคุยแบบส่วนตัวหรือไม่เป็นทางการนั้น ไม่มีจริงนะ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงองค์กร งานแต่งงาน อย่าเหมารวมเอาว่าการคุยกับนักข่าวในสถานการณ์ดังกล่าวจะ Off Record แม้แต่พีอาร์เองก็ต้องระวัง บางครั้งนักข่าวถามไถ่เรื่องราวของลูกค้าก็ต้องระวังนะ อย่าหลุดสิ่งสำคัญใดๆ ออกไป
ทำงานกับสื่อมวลชนอย่างมืออาชีพ จากเหตุการณ์ดังกล่าวของ Uber เดาว่าคงจะไม่มีพีอาร์อยู่ในห้องด้วย เพราะเชื่อว่า นักพีอาร์มืออาชีพ คงต้องรีบเข้าไปจัดการกับประเด็นดังกล่าวอย่างทันที และรีบเคลียร์กับเรื่องหรือประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น จำไว้ นักข่าวต้องการข้อมูล พีอาร์ในฐานะผู้จัดการข้อมูลที่ถูกต้อง ควรจัดการอย่างถูกวิธีด้วยการชี้แจงหรือให้ข้อมูล แต่ไม่ใช่ให้ไปจ่ายเงินนักข่าวนะ
ว่าแต่ มีใครเคยหลุดปากบอกข้อมูลสำคัญแบบ Off Record ไปให้กับนักข่าวบ้างไหม