fbpx

GPT-5 จะเปลี่ยนสมรภูมิประชาสัมพันธ์อย่างไร

2025 ถือเป็นปีที่วงการ PR ต้องจับตา เมื่อ OpenAI เปิดตัว GPT‑5 ซึ่งมีคุณสมบัติเก่งกว่าเดิม ทั้งด้านความเร็ว ความแม่นยำ และการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเปลี่ยนจากเครื่องมือเขียนทั่วไปเป็น “เพื่อนร่วมคิด” ที่เข้าใจงานสื่อสารได้ในระดับสูง สำหรับนักสื่อสารที่สร้าง content เป็นหัวใจหลัก GPT‑5 ช่วยให้ทำงานได้ทั้งเร็วขึ้น แม่นขึ้น และล้ำขึ้น

chatgpt-5

ความแม่นยำที่สร้างความเชื่อมั่น (Accuracy Revolution)

หนึ่งในความท้าทายหลักของ AI คือการ “หลอก” หรือให้ข้อมูลผิด (hallucination) แต่ GPT‑5 ลดความผิดพลาดนี้ลงอย่างมีนัยสำคัญ — ลดการให้คำตอบผิดประมาณ 45–80% เมื่อเทียบกับ GPT‑4o และ OpenAI o3 สิ่งนี้ทำให้นักพีอาร์สามารถใช้ GPT‑5 ตรวจสอบข้อเท็จจริง, ค้นข้อมูล, หรือสร้างเนื้อหาด้วยความมั่นใจมากขึ้น

ความคิดเชิงกลยุทธ์ในแพลตฟอร์มเดียว

นอกจากเขียนได้ดี GPT‑5 ยัง “คิด” ได้ — ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ที่จะเลือกใช้โหมด “เร็ว” หรือ “คิดลึก” ให้โดยอัตโนมัติ (ผ่าน real-time router)  นั่นหมายถึง นักสื่อสารสามารถใช้ GPT‑5 รับมือกับสถานการณ์ซับซ้อนได้ เช่น จำลองสถานการณ์วิกฤต, วางกลยุทธ์การสื่อสาร, หรือตั้งคำถามเชิงลึก ทำให้ได้มุมมองเชิงกลยุทธ์ โดยไม่ต้องสลับโหมดเอง

การรวมข้อมูลจำนวนมหาศาล (Extended Context & Multimodal)

GPT‑5 รองรับข้อมูลปริมาณมหาศาลและหลากหลายได้พร้อมกัน — ไม่ว่าจะเป็นข้อความ, รูปภาพ, เสียง จึงใช้งานในกระบวนการเชิงกลยุทธ์ เช่น วิเคราะห์แผนงาน, วิเคราะห์ภาพข่าว, หรือประเมินท่าทีสังคม ได้แบบไม่ต้องสลับเครื่องมือ สำหรับพีอาร์ การมีข้อมูลทุกอย่างในระบบเดียวช่วยตัดสินใจได้รวดเร็วและรอบด้าน

Prompt Engineering: ศิลปะและกลยุทธ์ของการใช้ AI

แม้ GPT‑5 เก่ง แต่คำถามหรือ “prompt” ที่วางไว้สำคัญมาก — Prompt ที่ดีเปลี่ยน AI จากเครื่องมือกลายเป็นเพื่อนร่วมงาน

  • ใช้ structured prompts หรือ chain-of‑thought prompting เพื่อให้ AI “คิดขั้นตอน” ไม่ใช่ตอบทันที
  • ระบุเจตนาและเป้าหมายให้ชัด: เช่น “โปรดคิดเป็นสามวิธี แล้วช่วยฉันเลือก”
  • ต้องใส่รายละเอียดบริบท เช่น โทน, กลุ่มเป้าหมาย, หรือข้อความหลัก
    ใช้เทคนิคเหล่านี้ จะได้ผลลัพธ์แม่นขึ้น และลด “โมเดลเดาทางผิด”

3 แนวทางเชิงกลยุทธ์ (Practical Steps)

3 แนวทางใช้งาน GPT‑5 เชิงกลยุทธ์ในงานประชาสัมพันธ์:

  1. สร้างคลังแม่แบบ Pitch (Media Pitch Library)
    ให้ AI สร้างหัวข้อจดหมายหรือข้อความสำเร็จรูปสำหรับสื่อสารต่าง ๆ (เปิดตัวผลิตภัณฑ์, บทวิจารณ์, ประกาศภายใน ฯลฯ)
  2. โครงสร้างการสื่อสารวิกฤต (Crisis Framework)
    ให้ GPT‑5 สร้างแผนตอบวิกฤต เช่น decision trees, ข้อความสำหรับกลุ่มต่าง ๆ (ลูกค้า, พนักงาน, ผู้ถือหุ้น) ให้พร้อมใช้เมื่อเกิดสถานการณ์จริงเร็ว
  3. ปรับเนื้อหาอัตโนมัติ multi‑platform
    ป้อนข่าวเดียว แล้วให้ AI แปลงเป็นโพสต์ LinkedIn, Thread Twitter, อีเมลภายใน และอื่น ๆ พร้อมโทนให้เหมาะกับแพลตฟอร์ม

และสำหรับใครที่ค้นเคย ยังสามารถใช้ “vibe coding” สร้าง prototype เว็บหรือหน้าปฏิสัมพันธ์ (interactive microsite) ได้ทันที เพียงป้อนคำสั่ง เช่นนับถอยหลัง, ฟอร์มสมัคร, หรือ UI ง่าย ๆ

กลยุทธ์ให้ AI เสริมพลังมนุษย์ ไม่ใช่แทนที่

GPT-5 ไม่ใช่แค่ “เครื่องมือเขียน” แต่เป็น โครงสร้างเนื้อหา, เป็นพันธมิตรในการคิด, และเป็นนักวางแผนฉับไว ในวิกฤต

แต่มันจะสำเร็จได้ก็ด้วย กลยุทธ์ — การรู้จักออกแบบ prompt, เข้าใจขีดจำกัด, ปรับใช้อย่างรอบคอบ, และรักษาคุณค่าส่วนตัวของมนุษย์อยู่

ถ้าใช้ถูกทาง นักสื่อสารจะกลายเป็น ผู้เชี่ยวชาญที่รวมความคิดสร้างสรรค์กับ AI ได้อย่างกลมกลืน— พัฒนาคำ ความคิด และกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้นในยุคใหม่นี้ครับ


FAQS: GPT-5 จะเปลี่ยนสมรภูมิประชาสัมพันธ์อย่างไร

Q1: GPT-5 แตกต่างจาก GPT-4 อย่างไรในมุมงานประชาสัมพันธ์?
A1: GPT-5 ลดอัตราการ “หลอก” ลงเกือบครึ่ง ทำให้เชื่อถือได้มากขึ้น พร้อมเพิ่มความสามารถ reasoning คิดเชิงกลยุทธ์ได้ดีกว่า GPT-4

Q2: นักพีอาร์จะใช้ GPT-5 ทำอะไรได้บ้าง?
A2: ใช้ทำ fact-checking, ค้นข้อมูลเบื้องต้น, สร้าง pitch, วางแผน crisis communication, และปรับข้อความข้ามแพลตฟอร์มได้ทันที

Q3: GPT-5 มีผลต่อการสื่อสารในภาวะวิกฤตอย่างไร?
A3: สามารถช่วยสร้าง decision tree, draft ข้อความสำหรับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และปรับกลยุทธ์ตอบสนองตามความรุนแรงของเหตุการณ์

Q4: “Vibe coding” ของ GPT-5 มีประโยชน์กับ PR อย่างไร?
A4: ทำให้พีอาร์สามารถ prototype microsite หรือ interactive tools ได้เอง เช่น landing page นับถอยหลัง เปิดตัวสินค้า หรือฟอร์มสมัคร

Q5: การ democratization ของ GPT-5 หมายความว่าอะไรสำหรับนักพีอาร์?
A5: หมายถึงทุกคนเข้าถึง GPT-5 ได้ฟรี ไม่จำกัดแค่สมาชิกพรีเมียม ทำให้เอเจนซีเล็กและฟรีแลนซ์แข่งกับองค์กรใหญ่ได้ใกล้เคียงขึ้น

Q6: นักพีอาร์ควรเริ่มต้นใช้งาน GPT-5 อย่างไร?
A6: เริ่มจากงานเสี่ยงต่ำ เช่น brainstorm, เขียน draft แรก แล้วค่อยขยายสู่การวางกลยุทธ์และ crisis communication เมื่อมั่นใจมากขึ้น

Q7: ความท้าทายของการใช้ GPT-5 ในงาน PR คืออะไร?
A7: อาจพึ่งพา AI มากเกินไปจนขาดความเป็นมนุษย์, ความอบอุ่นของการสื่อสารลดลง และต้องเรียนรู้ prompt ใหม่เพื่อควบคุมคุณภาพคำตอบ

Q8: Prompt engineering สำคัญอย่างไรกับ GPT-5?
A8: เป็นกุญแจให้ได้คำตอบที่แม่นตรง เช่น ใช้ structured prompts, ระบุเป้าหมายชัด และใส่บริบทที่ครบถ้วน

Q9: GPT-5 สามารถแทนที่นักพีอาร์ได้หรือไม่?
A9: ไม่ได้ แต่เป็น “amplifier” เสริมพลังให้พีอาร์คิดเร็วขึ้น วิเคราะห์ลึกขึ้น และสร้างคอนเทนต์ได้หลากหลายมากขึ้น

Q10: แนวโน้มการใช้ GPT-5 ในวงการสื่อสารอนาคตคืออะไร?
A10: จะกลายเป็นเครื่องมือมาตรฐานของนักพีอาร์ คล้ายกับ Microsoft Office หรือ Social Listening Tools โดยเน้นการผสม AI + human insight

เรียบเรียงโดย

sarawut burapapat

สราวุธ บูรพาพัธ

สราวุ​ธ บูรพาพัธ เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อสารให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง มีประสบการณ์ด้านการสื่อสารในธุรกิจพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจความงาม ธุรกิจบริการ และศูนย์การเรียนรู้ ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติกว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม เพื่อสนับสนุนแผนการตลาดหรือสร้างภาพลักษณ์ให้แก่องค์กร รวมทั้ง บริหารจัดการสื่อสารภาวะวิกฤต

จบการศึกษาระดับปริญญาโท และปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *