fbpx

OSOTHO & FRIENDS Garden Fair: งานแฟร์รักษ์โลกสุดชิคใจกลางกรุง 15–17 ส.ค. นี้

หากพูดถึงเพื่อนร่วมทางที่อยู่เคียงข้างนักเดินทางไทยมายาวนาน หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น “อนุสาร อ.ส.ท.” นิตยสารท่องเที่ยวที่อยู่คู่สังคมไทยมากว่า 65 ปี ทุกหน้ากระดาษเคยบันทึกทั้งเรื่องราว การเดินทาง และแรงบันดาลใจของผู้คน จนถึงวันนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เลือกจะไม่เพียงเฉลิมฉลองด้วยหนังสือเล่มพิเศษ แต่จัดงานที่ทำให้ “การเดินทาง” ไม่ได้มีแค่ปลายทาง แต่ยังกลายเป็นประสบการณ์ที่โอบกอดหัวใจกลางกรุง นั่นคือ “OSOTHO & FRIENDS Garden Fair” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15–17 สิงหาคม 2568 ณ มิวเซียมสยาม

งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดแสดงหรือออกบูธธรรมดา แต่คือการออกแบบประสบการณ์ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกเหมือนได้พักร่าง พักใจ และออกเดินทางไปพร้อม ๆ กันในพื้นที่สวนกลางเมือง

บรรยากาศงาน – จากประตูมิวเซียมสยามสู่สวนกลางกรุง

ก้าวแรกที่เดินเข้าสู่ มิวเซียมสยาม ความรู้สึกแรกคือความสดชื่นจากการออกแบบบรรยากาศงานที่ผสมผสาน “สวน” เข้ากับ “เมือง” ได้อย่างลงตัว เสียงหัวเราะของผู้คน เสียงดนตรีเบา ๆ คลอไปกับกลิ่นหอมของอาหารท้องถิ่นที่ลอยมาแตะจมูก ทำให้มิวเซียมที่เราคุ้นเคยกับภาพลักษณ์การเรียนรู้ กลายเป็น “สวนกลางกรุง” ที่เปิดต้อนรับนักเดินทางทุกวัย

โทนงานไม่หรูหราฟู่ฟ่า แต่เป็นมิตร อบอุ่น และเรียบง่าย เหมือนการไปแคมป์ปิ้งกับเพื่อน ๆ ที่ใจกลางเมือง

อ.ส.ท.

โซน Market – ตลาดนัดนักเดินทางและคราฟต์รักษ์โลก

หนึ่งในโซนที่คึกคักที่สุดคือ Market และ Craft Market ที่รวบรวมสินค้าจากผู้ประกอบการสายรักษ์โลก งานคราฟต์ และของใช้ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่

เดินไปไม่กี่ก้าวก็เจอร้าน “กลิ่นสีและกาวแป้ง” ที่เปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าเก่าให้กลายเป็นกระเป๋า Upcycling ดีไซน์เก๋ หรือ “Same Thang” ที่เอาซองกาแฟมาแปลงโฉมเป็นกระเป๋าที่ทันสมัย ส่วน Bang On ก็หยิบไม้สักและวัสดุเหลือใช้มาสร้างงานเครื่องประดับและของตกแต่งบ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์

ทุกชิ้นงานไม่ใช่แค่ของใช้ แต่เป็นเรื่องราวการเดินทางของผู้สร้าง ที่สอดคล้องกับหัวใจของงาน: การเดินทางอย่างยั่งยืน

อ.ส.ท.

โซน Food Market – รสชาติท้องถิ่นที่ฮีลใจ

ใครว่าการเดินทางจะเกิดขึ้นได้แค่เมื่อก้าวขาออกจากบ้าน? บางครั้งการลิ้มรสอาหารก็คือการเดินทางอีกแบบหนึ่ง
ใน Food Market ที่นี่คือ “จุดหมายปลายทาง” ของสายกิน เริ่มจาก Goodjee by สามชัยกรุ๊ป จากอุบลฯ ที่นำรสชาติบ้านเกิดมาตั้งไว้กลางกรุง, ร้านลองเลย จากจังหวัดเลย ที่ชวนเราลองของอีสานแท้ ๆ, หรือแม้แต่ 5 A.M. คาเฟ่น้ำเต้าหู้ ที่ยกความเฮลตี้จากปากคลองตลาดมาเสิร์ฟในรูปแบบ specialty

แต่ละคำที่ได้ชิมคือการ “เดินทางผ่านลิ้น” ที่พาเราย้อนนึกถึงถนนเล็ก ๆ ในต่างจังหวัด ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่แฝงเสน่ห์ และความทรงจำในการออกทริป

อ.ส.ท.

Travel Talk & Workshop – เมื่อเรื่องเล่าและการลงมือทำคือแรงบันดาลใจ

อีกมุมที่ทำให้งานนี้อบอุ่นคือ Travel Talk เสวนาที่ไม่ได้เน้นวิชาการ แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพจากนักเดินทางที่เล่าเรื่องของตัวเองอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็น แพร พิมพ์ลดา (PEAR is Hungry) ที่ชวนให้เรากินหมดจานอย่างรู้คุณค่าของอาหาร หรือ งบ ธัชรวรี (Thailand Outdoor) ที่เล่าเรื่องธรรมชาติในแบบเพื่อนข้างกองไฟ

นอกจากนี้ ยังมีเวิร์กชอปที่ทำให้ผู้เข้าร่วมได้ “ลงมือ” ไม่ใช่แค่นั่งฟัง เช่น ศิลปะปั้นลูกบอลมอส (โคเคดามะ) ที่พาเรากลับสู่ความสงบแบบญี่ปุ่น, Eco Print ที่เปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าให้กลายเป็นผลงานศิลปะ หรือแม้แต่การทำ พวงกุญแจจากเศษไมโครพลาสติก ที่แปรความเป็นขยะให้กลายเป็นคุณค่าใหม่

อ.ส.ท.

Exhibition – นิทรรศการ 65 ปี อ.ส.ท.

ในอีกมุมหนึ่งของงาน ผู้คนยืนหยุดนานกับ ภาพถ่ายขาวดำในนิทรรศการ “65 ปี อ.ส.ท.” ภาพสถานที่ท่องเที่ยวไทยในยุคแรก ๆ ที่สะท้อนทั้งความงดงามและความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา

มันไม่ใช่แค่ภาพถ่ายเก่า แต่คือ “ความทรงจำร่วม” ของสังคมไทย ที่ทำให้เรารู้สึกว่า การเดินทางไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มันเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า

อ.ส.ท.

Music & Show – ดนตรีและการแสดงกลางสวน

เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตก บรรยากาศงานก็เปลี่ยนไปเป็น คอนเสิร์ตเล็ก ๆ กลางสวน
เสียงเพลงจาก Thee and The Dudes หรือ LANDOKMAI ทำให้ผู้คนโยกเบา ๆ ไปพร้อมกับลมเย็นยามค่ำคืน แทรกด้วยการแสดงโขนเด็ก “ระบำวีรชัยลิง” และโชว์ตลกจาก The Jack Comedy ที่เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่แพ้ใคร

ตรงนี้เองที่งานแฟร์กลายเป็นมากกว่างานท่องเที่ยว แต่มันคือ “ชุมชนชั่วคราว” ที่ทุกคนมาใช้เวลา ร้องเพลง หัวเราะ และผ่อนคลายไปด้วยกัน

อ.ส.ท.

Friends’ Zone – เมื่อพันธมิตรคือเพื่อนร่วมทาง

สิ่งที่ทำให้งานนี้ไม่แข็งกระด้างคือการมี Friends’ Zone ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมขำ ๆ เช่น หมูเด้งเป่าลมยักษ์จากองค์การสวนสัตว์, มุมวาดภาพ “Painting Thailand” ที่เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงมุมมองที่มีต่อเมืองไทย

มันเป็นการย้ำว่า งานแฟร์ไม่จำเป็นต้องจริงจังเสมอไป บางครั้งความสุขเล็ก ๆ อย่างการนั่งปูเสื่อวาดภาพร่วมกันก็เพียงพอแล้ว

อ.ส.ท.

มิติสิ่งแวดล้อม – Zero Waste และ Carbon Credit

สิ่งที่น่าชื่นชมคือการที่ ททท. ยืนยันจะจัดงานแบบ Zero Waste โดยให้ยืม–ใช้–คืนภาชนะ พร้อมจุดคัดแยกขยะ และการชดเชยคาร์บอนด้วย Carbon Credit

นี่ไม่ใช่แค่การจัดอีเวนต์ แต่คือการส่งสารชัดเจนว่า การท่องเที่ยวไทยกำลังก้าวไปสู่ ความยั่งยืนที่จับต้องได้

Moment พิเศษ – Fan Meet กับ “กลัฟ คณาวุฒิ”

สำหรับแฟน ๆ บันเทิง ช่วงที่เรียกเสียงกรี๊ดที่สุดคือ Fan Meet กับกลัฟ คณาวุฒิ ที่มาเป็นเพื่อนพิเศษของ อ.ส.ท. งานนี้ไม่เพียงเพิ่มสีสัน แต่ยังทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์การเดินทางเก่าแก่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

อ.ส.ท.

วิเคราะห์ – ความหมายของการเดินทางในงานแฟร์

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า การเดินทางไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป มันสามารถเกิดขึ้นได้ในใจกลางกรุง โดยไม่ต้องมีตั๋วเครื่องบินหรือแผนทริปยาว ๆ

OSOTHO & FRIENDS Garden Fair คือบทพิสูจน์ว่า “การเดินทาง” คือการพบเจอ เรื่องเล่า การเรียนรู้ และการแบ่งปัน ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นได้ในพื้นที่เล็ก ๆ ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจ

ตลอด 65 ปีที่ผ่านมา อ.ส.ท. ไม่ได้เป็นเพียงนิตยสาร แต่คือ “เพื่อนร่วมทาง” ที่พาเรามองเห็นความงามของการเดินทางในหลากหลายมิติ และงานแฟร์ครั้งนี้ คือการตอกย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่าง อ.ส.ท. กับนักเดินทางไทยจะยังคงดำเนินต่อไป ไม่ใช่แค่ในหน้ากระดาษ แต่ในทุกประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจ


FAQs: OSOTHO & FRIENDS Garden Fair

Q1: งาน OSOTHO & FRIENDS Garden Fair จัดขึ้นที่ไหนและเมื่อไหร่?
A1: งานจัดที่ มิวเซียมสยาม (MRT สนามไชย ทางออก 1) ระหว่างวันที่ 15–17 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00–20.00 น. เข้าชมฟรี

Q2: งานนี้จัดขึ้นเพื่อโอกาสอะไร?
A2: งานจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 65 ปีนิตยสาร อ.ส.ท. ซึ่งเป็นนิตยสารท่องเที่ยวระดับตำนานของ ททท.

Q3: ไฮไลต์สำคัญของงานมีอะไรบ้าง?
A3: มี 3 ไฮไลต์ใหญ่ ได้แก่

  1. งานแฟร์ OSOTHO & FRIENDS Garden Fair
  2. อนุสาร อ.ส.ท. ฉบับพิเศษ “The Road to Remember”
  3. โปรโมชั่นพิเศษ 65 ปี อ.ส.ท.

Q4: ภายในงานมีกิจกรรมอะไรบ้าง?
A4: มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น ตลาดนัดนักเดินทาง, เวิร์กชอปคราฟต์รักษ์โลก, เสวนา Travel Talk, นิทรรศการภาพถ่าย 65 ปี อ.ส.ท., ดนตรีและการแสดงกลางสวน, Friends’ Zone และกิจกรรมแฟนมีต

Q5: โซน Market และ Craft Market มีสินค้าแบบไหน?
A5: มีสินค้าสาย รักษ์โลก งานคราฟต์ ของแต่งบ้าน และสินค้าจากชุมชนทั่วไทย เช่น กระเป๋าอัปไซเคิลจากซองกาแฟ, เครื่องประดับไม้สัก, และงานเซรามิก

Q6: มีอาหารอะไรน่าสนใจในโซน Food Market?
A6: มีร้านอาหารท้องถิ่นและสตรีทฟู้ด เช่น Goodjee by สามชัยกรุ๊ป (อุบลฯ), ร้านลองเลย (เลย), ร้าน Yham Mi (อุตรดิตถ์), ร้าน 5 A.M. คาเฟ่น้ำเต้าหู้ และอีกมากมาย

Q7: ใครเป็นแขกรับเชิญพิเศษในงานนี้?
A7: กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ นักแสดงชื่อดัง มาร่วมงานในกิจกรรม Exclusive Fan Meet วันที่ 16 สิงหาคม 2568

Q8: งานนี้มีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไร?
A8: งานใช้แนวคิด Zero Waste โดยให้บริการยืม–ใช้–คืนภาชนะ, มีจุดคัดแยกขยะ, คำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ และชดเชยด้วย Carbon Credit

Q9: นิทรรศการ 65 ปี อ.ส.ท. มีอะไรพิเศษ?
A9: มีการจัดแสดง ภาพถ่ายหายาก ของแหล่งท่องเที่ยวไทยในอดีต รวมถึงไทม์ไลน์และเรื่องเล่าจากนักเขียนระดับตำนาน

Q10: สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไหน?
A10: ติดตามได้ที่ Facebook: อ.ส.ท. (https://www.facebook.com/osotho) และเว็บไซต์ https://osotho.co

Author

  • PR Matter

    เบื้องหลังบทความคุณภาพทุกชิ้นบน พีอาร์แมทเทอร์ (PR Matter Editorial Team) คือ ทีมกองบรรณาธิการที่รวมตัวกันจากนักเขียน นักข่าว นักพีอาร์ และครีเอทีฟผู้มีประสบการณ์จริงในวงการสื่อสาร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ด้วยความมุ่งมั่นในการ “อัปเดตองค์ความรู้ เชื่อมโยงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับนักสื่อสาร นักพีอาร์ นักการตลาด และผู้นำองค์กรทั่วประเทศ พวกเราจึงใส่ใจในทุกถ้อยคำ ตรวจสอบทุกข้อมูล และเขียนทุกบทความด้วยหัวใจของมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญของทีม ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์ การสื่อสารองค์กร การจัดการวิกฤต ไปจนถึงการเล่าเรื่องแบบเจาะลึก ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงสร้างสรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *