• Facebook
• Twitter
• Line

ในยุคที่คำถามของผู้ใช้เริ่มต้นที่ “ChatGPT ว่าไง” มากกว่า “Google ว่าไง” นั่นแปลว่าเรากำลังเข้าสู่โลกใหม่ของประชาสัมพันธ์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป นักประชาสัมพันธ์ (PR) ต้องรู้เท่าทัน AI ต้องเข้าใจว่าโมเดลภาษาใหญ่ หรือ Large Language Models (LLM) อย่าง ChatGPT, Gemini, Claude และ Perplexity กำลังเปลี่ยนแปลงการค้นหาข้อมูลอย่างไร และทำอย่างไรให้ “ข่าวประชาสัมพันธ์ของคุณ” ถูกหยิบยกขึ้นมาแสดงในคำตอบของ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

AI + PR = ปฏิวัติการสื่อสาร

ในเวิร์กช็อป “Artificial Intelligence for PR” โดย PRNEWS Pro ซึ่งนำเสนอโดย Mirza Germovic และ Whitney Hart จาก Edelman และ Avenue Z ได้ให้คำแนะนำว่าทำไมแหล่งข่าวบางรายจึงมักถูก AI นำไปแสดงผลมากกว่ารายอื่น คำตอบคือ “ความน่าเชื่อถือ” และ “ความร่วมมือกับ OpenAI”

AI เลือกเนื้อหาแบบไหนไปแสดงผล?

จากข้อมูลของ SimilarWeb (มี.ค. 2025) พบว่าแหล่งข่าวอย่าง Reuters, The Guardian, Forbes, TechRadar ล้วนติด Top AI Result เพราะมี partnership กับ OpenAI ทำให้ AI เห็นเนื้อหาหลัง paywall และดึงข้อมูลพร้อมลิงก์มาใช้

นัก PR ต้องถามตัวเองว่า: “เราสร้างเนื้อหาที่ AI เห็นว่า ‘มีคุณค่า’ แล้วหรือยัง?”

3 สิ่งที่ PR ต้องทำทันที

1. ผูกสัมพันธ์กับทีม SEO อย่างแน่นแฟ้น

PR และ SEO ไม่ใช่ทีมที่ทำงานแยกกันอีกต่อไป การ “ร่วมมือ” จึงสำคัญกว่าการ “แบ่งงาน” PR ต้องรู้จักคำว่า Answer Engine Optimization (AEO) ที่ไม่ใช่แค่เน้น keyword แต่เป็นการออกแบบข้อมูลให้ AI เข้าใจและตอบคำถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น

• การเขียนแบบ structured มี bullet, FAQ, H1-H2 ที่ชัดเจน
• การใช้ schema markup เพื่อระบุเนื้อหาสำคัญให้ search engine

2. Audit เนื้อหาในเว็บไซต์ของคุณ

หลายเว็บไซต์มีบทความ SEO แต่ไม่ได้คิดในมุม “PR” เช่นการสื่อสารชื่อแบรนด์, วิสัยทัศน์ หรือจุดยืนสังคม นัก PR ควรรีวิว:

• บล็อกโพสต์
• Press release เก่า
• หน้าเกี่ยวกับเรา

เพื่อปรับภาษาหรือบริบทให้ทั้ง AI และผู้อ่านมนุษย์เข้าใจง่าย

3. วิเคราะห์ Coverage ย้อนหลัง 2 ปี

ไม่ใช่แค่ดูว่า coverage เยอะหรือไม่ แต่ให้ดูว่า coverage แบบไหนที่ “AI หยิบไปใช้” ตัวอย่างคำถาม:

• ข่าวนี้อยู่ในสื่อที่มี partnership กับ OpenAI หรือไม่?
• พาดหัวอ่านเข้าใจง่ายหรือไม่?
• มีเนื้อหาแบบ editorial ที่ให้คุณค่าในเชิงลึกหรือเปล่า?

เจาะลึก GEO และ AEO: SEO เวอร์ชัน AI

GEO = Generative Engine Optimization

แนวคิดใหม่ที่พัฒนาโดยนักการตลาดระดับโลก GEO คือการปรับเนื้อหาเพื่อให้ AI อย่าง ChatGPT หยิบไปตอบคำถามผู้ใช้

AEO = Answer Engine Optimization

AEO คือการปรับโครงสร้างเนื้อหาให้เหมาะกับ AI Search ที่เน้น “คำตอบที่ใช่” ไม่ใช่แค่ “หน้าเว็บที่ติดอันดับ”

เครื่องมือที่ช่วย AEO เช่น:

• Writesonic, Surfer SEO: ช่วยวิเคราะห์ว่าคำตอบไหนที่ AI อยากเห็น
• AnswerThePublic, SEO.AI: วิเคราะห์คำถามที่คนค้นบ่อย + format ที่ AI ใช้ง่าย

ประชาสัมพันธ์ที่ชนะ AI ต้องคิดแบบ “ปลูกสวน” ไม่ใช่แค่ “โปรยเมล็ด”

เปรียบ PR กับการปลูกสวน:

• SEO = ดินดี → เลือก keyword ถูกที่ สื่อสารชัด
• Content = เมล็ดพันธุ์ → เนื้อหาดีมีคุณค่า
• GEO/AEO = น้ำ+แสงแดด → ส่งเสริมให้ AI สนใจและหยิบไปใช้

คุณไม่สามารถปล่อยข่าวอย่างเดียวแล้วหวังให้ AI มาเก็บไปแสดงได้ ต้อง ออกแบบเนื้อหาให้เหมาะกับ AI เช่น

• ใช้ภาษากลาง เข้าใจง่าย
• สั้น กระชับ ตรงประเด็น
• ระบุชื่อองค์กร วิทยากร วันเวลาแบบละเอียด
• ติด FAQ หรือ bullet ที่ AI ชอบดึงไปใช้

กลยุทธ์ PR รุ่นใหม่: สร้างข่าวที่ AI หยิบได้ สื่อแชร์ได้ คนอยากอ่าน

1. เน้นสื่อที่มีความร่วมมือกับ AI

เช่น Forbes, Reuters, NYT, TechRadar, The Guardian (ตามที่ OpenAI ประกาศความร่วมมือ)

2. เน้น Editorial มากกว่า Press Release แบบเดิม

เพราะ AI มักหยิบ editorial content ที่มีความเห็นและวิเคราะห์ มากกว่าเพียงแค่ “ข่าวประกาศ”

3. สร้าง Original Thought Leadership

เนื้อหาที่มี insight, มุมมองใหม่ หรือสถิติแบบ exclusive มีโอกาสสูงมากที่จะถูก AI เลือกใช้เป็น “คำตอบ”

จาก PR สู่ SEO Champion: การเปลี่ยนผ่านที่จำเป็น

หากคุณยังเขียนข่าวประชาสัมพันธ์เหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน คุณอาจไม่มีตัวตนในโลก AI อีกต่อไป เพราะ AI ไม่รู้จักชื่อคุณ ไม่เคยเห็นเนื้อหาคุณ ไม่เคยแสดงคุณในผลลัพธ์

ตอนนี้คือโอกาสที่ นักประชาสัมพันธ์จะกลายเป็นนัก SEO ระดับเทพ โดยไม่ต้องเรียนโค้ด เพียงแค่ “เปลี่ยนวิธีคิดในการสื่อสาร”

สรุป: บันได 5 ขั้น สู่ PR แห่งอนาคตในยุค AI

1. คิด SEO ตั้งแต่แรก: ไม่ใช่เรื่องของทีมเทคนิค แต่คือภารกิจของ PR
2. เลือกสื่ออย่างมีกลยุทธ์: เน้นสื่อที่มี partnership กับ AI
3. ใช้ภาษาที่ AI เข้าใจ: Bullet, FAQ, สั้น กระชับ มี keyword
4. เขียนแบบ Editorial, ไม่ใช่แค่ประกาศ: เสริม insight และวิเคราะห์
5. วัดผลจาก “AI ตอบหรือยัง”: ไม่ใช่แค่ยอด View หรือ Share

---

FAQS: กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ในยุค AI: ชนะเกม SEO ด้วยโมเดลภาษาใหญ่ (LLM)

Q1: โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) คืออะไร และเกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์อย่างไร?

A1: โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) เช่น ChatGPT หรือ Gemini คือระบบ AI ที่สามารถประมวลผลและตอบคำถามจากข้อมูลจำนวนมาก นักประชาสัมพันธ์ต้องเข้าใจว่า LLM สามารถเลือกข่าว บทความ หรือข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือเพื่อใช้ในการตอบคำถามของผู้ใช้ ทำให้บทบาทของ PR ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สื่อสารเข้าถึง LLM ได้

Q2: ทำไม AI ถึงไม่เลือกข่าวของเรามาแสดงในผลลัพธ์?

A2: หากข่าวของคุณไม่ได้อยู่ในแหล่งข่าวที่ AI ไว้วางใจ หรือเขียนไม่ตรงกับหลัก SEO และ AEO (Answer Engine Optimization) ก็อาจทำให้ AI ไม่หยิบไปใช้ เช่น พาดหัวไม่ชัดเจน ไม่มีข้อมูลแบบ structured หรือไม่ได้ลงในสื่อที่มีความร่วมมือกับ AI อย่าง OpenAI

Q3: AEO ต่างจาก SEO ทั่วไปอย่างไร?

A3: SEO เน้นให้เว็บไซต์ติดอันดับใน Google ส่วน AEO มุ่งเน้นให้ AI อย่าง ChatGPT สามารถดึงข้อมูลจากเว็บไซต์เพื่อตอบคำถามได้โดยตรง ซึ่งต้องจัดโครงสร้างเนื้อหาให้ AI เข้าใจ เช่น การใช้ Bullet, FAQ, H1-H2 และ Schema Markup

Q4: ควรเริ่มต้นอย่างไรหากต้องการให้ AI หยิบข่าวของเราไปใช้?

A4: เริ่มจาก 3 สิ่งหลัก: 1) สร้างความร่วมมือกับทีม SEO 2) ตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหาเว็บไซต์ให้เข้าใจง่าย มีโครงสร้าง 3) วิเคราะห์ coverage ย้อนหลังเพื่อดูว่าเนื้อหาประเภทใดถูกหยิบไปใช้บ่อย

Q5: มีสื่อใดบ้างที่มักถูก AI แสดงผล?

A5: สื่อที่มี partnership กับ OpenAI เช่น Reuters, The Guardian, New York Times, Forbes, TechRadar มักถูกเลือกเพราะ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลหลัง paywall และดึงไปใช้ในการตอบคำถาม

Q6: นักประชาสัมพันธ์ต้องเรียนรู้ทักษะอะไรเพิ่มในยุค AI?

A6: ต้องเข้าใจหลัก GEO (Generative Engine Optimization), การทำงานร่วมกับ SEO, การเขียนเนื้อหาแบบ editorial ที่มี insight และสามารถแปลงข้อมูลเป็นรูปแบบที่ AI เข้าใจ เช่น Q&A, Bullet หรือบทวิเคราะห์ที่มีประเด็นชัด

Q7: ข่าวประชาสัมพันธ์แบบไหนที่ AI ชอบ?

A7: เนื้อหาที่เขียนแบบ editorial หรือ Thought Leadership ที่มีความเห็น วิเคราะห์ มีข้อมูลใหม่ และใช้ภาษากลาง เข้าใจง่าย พร้อมแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน

Q8: จะวัดผลความสำเร็จของ PR ในยุค AI อย่างไร?

A8: นอกจากยอดผู้ชมและสื่อที่แชร์แล้ว ต้องวัดว่า “ข่าวของคุณถูก AI หยิบไปแสดงผลหรือไม่” ซึ่งสามารถตรวจจากผลลัพธ์ใน ChatGPT หรือ Perplexity ว่ามีการอ้างถึงหรือไม่

Q9: ต้องปรับโครงสร้างเว็บไซต์อย่างไรเพื่อรองรับ AI?

A9: ใช้โครงสร้าง HTML ที่ชัดเจน (H1-H3), ใส่ Schema Markup, มี Section ที่ชัดเจน เช่น FAQ, และใช้ภาษาที่ AI เข้าใจได้ง่าย เน้นความกระชับและประเด็นตรง

Q10: แนวโน้มในอนาคตของ PR และ AI คืออะไร?

A10: PR ต้องกลายเป็น “ผู้จัดการข้อมูล” ที่รู้จักวางกลยุทธ์ให้เนื้อหาเข้าถึงทั้งมนุษย์และ AI โดยผสานงานกับทีมเทคนิค วิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้ และปรับเนื้อหาตามพฤติกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน AI Search

• Facebook
• Twitter
• Line

ai ai ในงานประชาสัมพันธ์ สราวุธ บูรพาพัธ