กลางกรุงเทพมหานคร เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยจังหวะชีวิตอันเร่งรีบ ท่ามกลางตึกสูงและถนนหนาแน่น คุณอาจเคยคิดว่าการหาพื้นที่เขียวสงบใจกลางเมืองคือฝันไกลเกินเอื้อม แต่วันนี้ “Dusit Central Park” ได้แปรเปลี่ยนความฝันนั้นให้กลายเป็นความจริงด้วย Roof Park สวนลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ที่โอบล้อมใจกลางเมืองหลวง
จากดุสิตธานี สู่แลนด์มาร์กแห่งใหม่ในศตวรรษที่ 21
ที่ตั้งของโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 46,000 ล้านบาทนี้เคยเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพฯ อันโด่งดังซึ่งเปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2513 และปิดตัวในปี 2561 ท่ามกลางความคิดถึงของคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่การจากลาครั้งนั้นไม่ได้สิ้นสุด หากเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม — ที่ซึ่งอดีตและอนาคตหลอมรวมอย่างกลมกลืน
วิสัยทัศน์ระดับโลก ที่ยึดเมืองเป็นศูนย์กลาง
คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจาก “วิสัยทัศน์ที่มองไปไกลกว่าอสังหาริมทรัพย์” เพราะสิ่งที่เธอและทีมบริหารต้องการสร้าง ไม่ใช่แค่ตึกที่สวยที่สุด แต่คือ “คุณภาพชีวิต” ที่ดีที่สุด
Roof Park จึงถูกพัฒนาขึ้นบนแนวคิดที่ต้องการ “ให้พื้นที่นี้มีความหมายกับสังคม” ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพื้นที่สำหรับพักผ่อน ออกกำลังกาย พบปะ หรือแสดงความคิดสร้างสรรค์ พื้นที่ทุกตารางเมตรจึงออกแบบด้วยความเข้าใจลึกซึ้งในไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่
Roof Park: เนินเขาแห่งความร่มรื่นใจกลางกรุง
Roof Park ไม่ใช่แค่สวนธรรมดา แต่คือเนินเขาขนาดย่อมที่ยกตัวจากชั้น 4 ไปยังชั้น 7 ของอาคาร ภูมิทัศน์ถูกออกแบบให้มีการไล่ระดับความสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนเดินอยู่ท่ามกลาง “ภูเขาสีเขียว” โดยเชื่อมต่อสายตาและอารมณ์กับสวนลุมพินีอย่างนุ่มนวล
คุณธัชพล สุนทราจารย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Landscape Collaboration จำกัด ผู้ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมของ Roof Park โครงการ Dusit Central Park กล่าวว่า โจทย์ของการสร้างสวนแห่งนี้ “ท้าทายทั้งเชิงเทคนิคและความรู้สึก” เพราะต้องทำให้คนรู้สึกว่าไม่อยู่บนตึก แต่กลับเหมือนอยู่ในสวนธรรมชาติจริง ๆ
การเลือกพันธุ์ไม้ก็ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม แต่ต้องมีคุณสมบัติที่ช่วยกรองอากาศ เพิ่มออกซิเจน ลดมลพิษ และยังเป็นบ้านใหม่ของสัตว์เล็ก สัตว์มีประโยชน์ และแมลงช่วยผสมเกสร
พื้นที่สีเขียวที่ออกแบบให้ “ทุกคน” ใช้ได้จริง
การออกแบบ Roof Park ใช้แนวคิด Universal Design ที่แท้จริง กล่าวคือ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ใช้ชีวิตแบบใด อายุเท่าไร หรือมีข้อจำกัดทางร่างกายแบบใด ก็สามารถเข้าถึงและใช้งานพื้นที่นี้ได้อย่างสะดวกสบาย
พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นหลายโซน ได้แก่:
- สวนชมวิว: ชมทิวทัศน์สวนลุมฯ และตึกสูงอย่างไม่มีอะไรมาบดบัง
- ลานกิจกรรม: รองรับการจัดแสดงงานศิลปะ ดนตรี หรือเวิร์กช็อป
- สนามเด็กเล่น: พื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กที่ปลอดภัยและสนุก
- จุดพักผ่อน: เบาะนั่งกลางธรรมชาติสำหรับผู้อ่านหนังสือหรือพักสมอง
- โซนสัตว์เลี้ยง: รองรับผู้มีสัตว์เลี้ยงให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ
เชื่อมต่ออดีตด้วยดีไซน์ร่วมสมัย
แม้ Roof Park จะทันสมัยด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมล้ำยุค แต่องค์ประกอบหลายอย่างยังเชื่อมโยงกับ “ดุสิตธานี” แบบคลาสสิก ทั้งการเลือกใช้เส้นสาย “หกเหลี่ยม” ซึ่งเป็นลวดลายเฉพาะของโรงแรมดุสิต การจัดวางน้ำตก ต้นลีลาวดี รวมถึงปลาคาร์พในบ่อน้ำ
การออกแบบโดยเน้นความ “ร่วมสมัยผสานรากเหง้า” คือกุญแจที่ทำให้ Roof Park ไม่ใช่แค่สวย แต่มีความหมายเชิงวัฒนธรรมด้วย
ระบบนิเวศสมบูรณ์ในพื้นที่จำกัด
สิ่งที่ทำให้ Roof Park โดดเด่นกว่าโครงการอื่น ๆ คือการวางระบบนิเวศที่ครบวงจรจริง ๆ ไม่ใช่แค่ปลูกต้นไม้ไว้โชว์ แต่ปลูกเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ดูดซับคาร์บอน เพิ่มความชื้น และสร้างอุณหภูมิที่เย็นลงจากน้ำตกธรรมชาติขนาดเล็ก
วัสดุที่ใช้ในพื้นที่ก็ถูกเลือกอย่างใส่ใจ เช่น ไม้ธรรมชาติ หินล้าง ทรายกรวด ที่ให้ความรู้สึกถึง “พื้นผิวธรรมชาติ” ขณะเดียวกันก็ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Roof Park: พื้นที่เติมพลังของ “คนทำงาน”
ในเมืองที่จังหวะชีวิตเดินหน้าแบบไม่มีวันหยุด การได้มีพื้นที่ให้หยุดพักอย่างแท้จริงนั้นหายาก แต่ที่ Roof Park เราไม่ได้พูดถึงแค่ “การนั่งพัก” แต่คือ “การฟื้นคืนพลังชีวิต”
ไม่ว่าจะเป็นช่วงพักกลางวัน หรือหลังเลิกงาน คนทำงานในอาคารสำนักงาน Dusit Central Park และละแวกใกล้เคียง สามารถขึ้นมายังสวนลอยฟ้านี้เพื่อ:
- เดินเล่นรับลม เปลี่ยนบรรยากาศจากห้องประชุมอับอากาศเป็นลานเปิดโล่ง
- พักสมองจากหน้าจอ ด้วยการมองวิวสีเขียวสุดสายตา
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะบนสนามหญ้า หรือวิ่งเหยาะในทางเดินลาด
- ประชุมสร้างแรงบันดาลใจ ในโซน Amphitheatre หรือมุมนั่งแบบ casual ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ
Roof Park จึงกลายเป็น “ออฟฟิศลอยฟ้าชั่วคราว” ที่ส่งเสริมสุขภาวะกายและใจให้คนทำงานกลับไปสู่โต๊ะทำงานพร้อมแรงบันดาลใจใหม่เสมอ
สำหรับนักท่องเที่ยว: จุดหมายที่ต้องเช็คอิน
สำหรับนักเดินทาง Roof Park คือหนึ่งในแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ผสมผสานความหรูหรา ความสงบ และธรรมชาติในพื้นที่เดียว ไม่ว่าคุณจะ:
- พักอยู่ในโรงแรม Dusit Thani Bangkok ที่อยู่ในโครงการ
- มาเยือนเพื่อดื่มกาแฟ อ่านหนังสือ หรือชมวิว
- เดินเล่นก่อนหรือหลังอาหารเย็นในห้าง Central Park Retail
คุณจะได้สัมผัสมิติของกรุงเทพฯ ที่แตกต่าง — ไม่ใช่เมืองวุ่นวาย แต่คือเมืองที่ใส่ใจสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของผู้มาเยือน
สิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่นชมคือ “ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนเซ็นทรัลพาร์กนิวยอร์ก หรือไฮด์พาร์กลอนดอน” แต่มีรสชาติแบบไทย ๆ ซึ่งหาไม่ได้จากที่ใดในโลก
ศูนย์กลางแห่งไลฟ์สไตล์แบบองค์รวม
Roof Park ไม่ได้อยู่แยกตัวจากส่วนอื่นของ Dusit Central Park แต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์แบบ Live–Work–Play ที่เชื่อมโยงกันอย่างลงตัว:
- ที่พักอาศัย (Residences): เชื่อมสวนโดยตรง เสมือนมีสวนส่วนตัวหน้าบ้าน
- โรงแรม (Dusit Thani): มอบ Roof Park เป็นพื้นที่พักผ่อนให้แขกผู้เข้าพัก
- สำนักงาน (Central Park Offices): เป็นโอเอซิสของพนักงานทุกระดับ
- ห้างสรรพสินค้า (Retail): เป็นจุดแวะพักระหว่างการช้อปปิ้ง
ด้วยการออกแบบที่ไร้รอยต่อระหว่างพื้นที่ Roof Park และอาคารโดยรอบ ทุกคนจึงสามารถใช้ประโยชน์จากสวนนี้ได้ตามสไตล์ของตนเอง
เมืองใหม่ที่หายใจได้: ต้นแบบของความยั่งยืน
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ Roof Park คือการเป็นโมเดลของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน (Sustainable Urban Development) ที่ไม่ละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม
แนวทางดังกล่าวสะท้อนออกมาผ่าน:
- การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน ทราย ซึ่งทดแทนได้และปลอดภัย
- การจัดการน้ำฝนและระบบรดน้ำอัจฉริยะ เพื่อลดการใช้น้ำโดยไม่จำเป็น
- การออกแบบระบบกรองอากาศตามธรรมชาติ โดยอาศัยต้นไม้เป็นตัวกลาง
- การหลีกเลี่ยงสารเคมีในการบำรุงรักษา เพื่อรักษาสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ
Roof Park จึงเป็นมากกว่าสวน เพราะมันคือ “บทพิสูจน์” ว่าเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ก็สามารถเป็นเมืองสีเขียวได้ หากมีแนวคิดที่ถูกต้องและลงมือทำอย่างจริงจัง
แรงบันดาลใจสู่นักพัฒนาเมืองรุ่นใหม่
คุณศุภจี กล่าวไว้ตอนท้ายว่า “ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ขนาดเล็กหรือใหญ่ ถ้าเราออกแบบด้วยเจตนาเพื่อธรรมชาติและผู้คน พื้นที่นั้นย่อมส่งผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้”
คำกล่าวนี้ไม่เพียงเป็นหัวใจของโครงการ Dusit Central Park เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาเมือง สถาปนิก ภูมิสถาปนิก นักออกแบบ และภาครัฐ ให้หันมามองการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมุมใหม่
ไม่ใช่แค่ “พื้นที่เพื่อขาย” แต่คือ “พื้นที่เพื่อชีวิต”
พื้นที่กลางกรุง ที่ทำให้เราหายใจได้ลึกขึ้น
Roof Park แห่ง Dusit Central Park คือตัวอย่างของการพัฒนาเมืองที่เข้าใจมนุษย์ เข้าใจธรรมชาติ และเข้าใจอนาคต เรื่องราวนี้ อาจเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ แต่หวังว่าจะทำให้ผู้อ่านทุกคนอยากลองไปสัมผัสด้วยตาตนเองสักครั้ง
เพราะสุดท้าย…
ไม่ว่าเราจะเป็นคนทำงานที่เร่งรีบ หรือเป็นนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความสงบ “ทุกคนล้วนต้องการที่ว่างใจกลางชีวิต” และ Roof Park ก็คือ “ที่ว่าง” นั้น
FAQS: สวนลอยฟ้า 7 ไร่ กลางเมือง ไม่ใช่ฝัน แต่คือ Dusit Central Park ที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง
Q1: Roof Park คืออะไร และตั้งอยู่ที่ไหน?
A1: Roof Park คือสวนลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ตั้งอยู่ภายในโครงการ Dusit Central Park ตรงหัวมุมถนนสีลม–พระราม 4 ติดสวนลุมพินี ใจกลางกรุงเทพฯ
Q2: จุดเด่นของ Roof Park มีอะไรบ้าง?
A2: จุดเด่นคือการออกแบบไล่ระดับจากชั้น 4–7 เสมือนภูเขากลางเมือง เชื่อมต่อกับสวนลุมพินีแบบ “Extending Park View” พร้อมฟังก์ชันหลากหลาย เช่น Amphitheatre สนามเด็กเล่น และโซนสัตว์เลี้ยง
Q3: Roof Park เหมาะกับใคร?
A3: เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทั้งคนทำงาน นักท่องเที่ยว ครอบครัว ผู้สูงอายุ และผู้ใช้วีลแชร์ เพราะออกแบบด้วยแนวคิด Universal Design
Q4: Roof Park มีบทบาทอย่างไรต่อคนทำงานในเมือง?
A4: เป็นพื้นที่พักผ่อน ฟื้นฟูสุขภาพจิต และเสริมประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ใช้พักกลางวัน จัดประชุมกลางแจ้ง หรือทำกิจกรรมกลุ่ม
Q5: นักท่องเที่ยวสามารถใช้ Roof Park ได้อย่างไร?
A5: นักท่องเที่ยวสามารถใช้ Roof Park เพื่อพักผ่อน ถ่ายรูป ชมวิว หรือเป็นจุดเชื่อมต่อกิจกรรมกับโรงแรม ศูนย์การค้า และสวนลุมพินีที่อยู่ใกล้เคียง
Q6: แนวคิดการออกแบบ Roof Park มีอะไรพิเศษ?
A6: ใช้แนวคิด Inclusive, Heritage และ Urban Ecosystem ผสานธรรมชาติเข้ากับวัฒนธรรมดุสิต ผังสวนไร้รอยต่อ วัสดุธรรมชาติ และระบบดูแลสิ่งแวดล้อมครบวงจร
Q7: Roof Park สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไร?
A7: ช่วยดูดซับคาร์บอน เพิ่มออกซิเจน ลดฝุ่น PM2.5 และเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศด้วยระบบน้ำตกและพันธุ์ไม้ท้องถิ่น
Q8: Roof Park มีความเกี่ยวข้องกับ LEED อย่างไร?
A8: ได้รับการออกแบบตามแนวทางมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED เช่น การใช้วัสดุทดแทนได้ ไม่ใช้สารเคมี และมีระบบจัดการพลังงาน/น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
Q9: Roof Park เชื่อมโยงกับโครงการอื่นของ Dusit Central Park อย่างไร?
A9: เชื่อมต่อทั้งโรงแรม Dusit Thani Bangkok, The Residences, Central Park Retail และสำนักงาน ทำให้ Roof Park เป็นหัวใจของโครงการทั้งในด้านฟังก์ชันและภาพลักษณ์
Q10: ทำไม Roof Park จึงถูกมองว่าเป็นแบบอย่างของเมืองยั่งยืน?
A10: เพราะออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานจริง ความเป็นธรรมชาติ และการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สะท้อนแนวคิดเมืองสีเขียวที่จับต้องได้จริง
