fbpx

บทบาทของกรรมการผู้หญิงในบริษัทจดทะเบียนไทย (Female On Board’s Directors)

เพื่อส่งเสริมการหลายหลายทางเพศ (gender diversity) หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการได้ออกข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อส่งเสริมผู้หญิงให้มีบทบาทในเวทีต่างๆ ทั้งเวทีระดับโลก ภูมิภาค หรือระดับบริษัท และพบว่า หญิงไทยมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะกรรมการของคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทย และมีบทบาทผู้นำ (leadership) ในบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งในฐานะ “ประธานกรรมการ” หรือ “ผู้บริหารระดับสูงสุด” ของบริษัทจดทะเบียน

กรรมการผู้หญิง
  • จากการศึกษาโครงสร้างคณะกรรมการของบริษัทจดทะเบียนไทย ณ สิ้นปี 2563 จำนวน 731 บริษัท พบว่า ณ สิ้นปี 2563 สัดส่วนจำนวนผู้หญิงต่อจำนวนกรรมการทั้งชุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22.23% จาก ณ สิ้นปี 2562 ที่อยู่ 22.09% และพบว่า ณ สิ้นปี 2563 สัดส่วนจำนวนที่นั่งกรรมการเป็นผู้หญิงต่อจำนวนที่นั่งกรรมการอยู่ที่ 21.02% เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่อยู่ที่ 20.72%
  • นอกจากนี้ ณ สิ้นปี 2563 ยังพบว่า 87.3% ของบริษัทจดทะเบียนจากทั้งหมด ได้แต่งตั้งผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบริษัท ซึ่งสัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2558 ที่อยู่ที่ 79.4%
  • ณ สิ้นปี 2563 พบว่า 56.2% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดมีการแต่งตั้งผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ดำรงตำแหน่งกรรมการโดยเป็น “กรรมการอิสระ” ในคณะกรรมการบริษัท และสัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2558 ที่อยู่ที่ 47.8%
  • ผู้หญิงมีบทบาทในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่ผู้หญิงดำรงตำแหน่งเป็น “ประธานกรรมการ” (chairman of board director) โดย ณ สิ้นปี 2563 มี 57 บริษัท ที่ผู้หญิงดำรงตำแหน่งเป็น “ประธานกรรมการ” หรือ คิดเป็น 8.4% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่อยู่ที่ 47 บริษัท 6.9% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด
  • ขณะที่บทบาทผู้หญิงในด้านการบริหารจัดการ เมื่อพิจารณาจากผู้หญิงที่เป็นผู้บริหารอันดับสูงสุดขององค์กร พบว่า ณ สิ้นปี 2563 ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปี 2562 โดย ณ สิ้นปี 2563 มีผู้หญิงเป็นผู้บริหารอันดับสูงสุดของบริษัท จำนวน 101 บริษัท คิดเป็น 13.8% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ลดลงจากจำนวน 105 บริษัท คิดเป็น 14.8%
กรรมการผู้หญิง

บทบาทของผู้หญิงในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียน

กรรมการ (directors) ในคณะกรรมการบริษัท (board of directors) เป็นอีกกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่อบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากกรรมการเปรียบเสมือนตัวแทนของผู้ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน ที่มีบทบาทในการกำหนดกลยุทธ์ ตลอดทิศทางการดำเนินการของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นและเกิดประโยชน์ต่อบริษัทในระยะยาว ดังนั้น การคัดเลือกกรรมการที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมจึงมีส่วนสำคัญกับบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมเรื่องความหลากหลายทางเพศ และส่งเสริมให้สตรีมีบทบาทสำคัญในการบริหารองค์กร สอดคล้องกับหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ที่กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ทั้ง 17 ประการ โดยเฉพาะเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ประการที่ คือ ความเท่าเทียมทางเพศ

นอกจากนี้ ใน OECD Corporate Governance Factbook (2021) ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร กรอบการดำเนินงานด้านบรรรษัทภิบาลของหน่วยงานกว่า 50 หน่วยงานทั่วโลก ตามหลักการบรรษัทภิบาลของ G20/OECD พบว่า หลักการดังกล่าวให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศของคณะกรรมการ (board diversity) และเสนอว่า “ประเทศต่างๆ อาจต้องการพิจารณามาตรการต่างๆ เช่น เป้าหมายโดยสมัครใจ ข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูล โควตาของคณะกรรมการ และความคิดริเริ่มส่วนตัวที่ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศในคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง” (Principle VI.E.4) และมีความเชื่อว่า กรรมการที่เป็นผู้หญิงจำนวนมากขึ้น อาจนำเสนอมุมมองที่เป็นอิสระ (independent views) ในที่ประชุมคณะกรรมการและมีความเข้นข้นในกระบวนการตรวจสอบ  (monitoring function) ซึ่งในประเทศต่างๆ ได้ผลักดันให้เกิดความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของการปรับเปลี่ยนกฎหมาย การปรับเกณฑ์ การกำหนดเป็นข้อเสนอแนะ เป็นต้น[1]

สำหรับในประเทศไทยมีการผลักดันเรื่องความหลากหลายทางเพศเช่นกัน โดยเริ่มจากบริษัทจดทะเบียนหนึ่งๆ ควรมีผู้หญิงเป็นกรรมการอย่างน้อย 1 ท่าน จนกระทั่งปัจจุบันที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการสนับสนุนให้ผู้หญิงในบทบาทในคณะกรรมการเพิ่มขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายปี 2565 ที่จะสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนไทยว่า 30% ของบริษัทจดทะเบียนไทยมีกรรมการหญิงอย่างน้อย 30% ของจำนวนคณะกรรมการทั้งคณะ[2]

[1] https://www.oecd.org/corporate/OECD-Corporate-Governance-Factbook.pdf

[2] https://www.bangkokbiznews.com/pr-news/biz2u/992970

ผู้หญิงมีบทบาทในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มมากขึ้น

จากฐานข้อมูลบรรษัทภิบาลเพื่องานวิจัยของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลกรรมการ ข้อมูลผู้บริหาร และค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (บริษัทจดทะเบียนไทย) จากแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ อาทิ แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) รายงานประจำปี (แบบ 56-2)และข้อมูลเปิดเผยสาธารณะอื่นๆ ของบริษัทจดทะเบียน เป็นต้น สำหรับปี 2558 ถึงปี 2563 ซึ่งพบว่า ณ สิ้นปี 2563 บริษัทจดทะเบียนไทยรวม 731 บริษัท มีกรรมการ (directors) รวม 5,506 ราย และจากการที่กรรมการ 1 ราย อาจได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 1 แห่ง ส่งผลให้จำนวนตำแหน่งหรือจำนวนที่นั่งกรรมการมีจำนวนมากกว่าจำนวนกรรรมการ ดังนั้น หากพิจารณาจากจำนวนที่นั่งกรรมการรวมของทุกบริษัท พบว่า มีจำนวนที่นั่งกรรมการ (board seat) 7,017 ที่นั่ง [1]  ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่มีจำนวนกรรมการ 5,319 ราย รวม 6,771 ที่นั่งกรรมการ จาก 708 บริษัท

กรรมการผู้หญิง

เมื่อพิจารณาจำนวนผู้หญิงและจำนวนที่นั่งกรรมการที่เป็นผู้หญิง ณ สิ้นปี 2563 พบว่า มีกรรมการผู้หญิงรวม 1,224 ราย จากกรรมการทั้งหมด 5,506 ราย หรือคิดเป็น 22.23% ของจำนวนกรรมการทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 22.09% จาก ณ สิ้นปี 2562 และหากพิจารณาจากจำนวนที่นั่งกรรมการ พบว่า ณ สิ้นปี 2563 มีจำนวนที่นั่งกรรมการที่เป็นผู้หญิงรวม 1,475 ที่นั่งจากทั้งหมด 7,017 ที่นั่ง หรือคิดเป็น 21.02% ของจำนวนที่นั่งกรรมการทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 20.72% จาก ณ สิ้นปี 2562 ซึ่งจากข้อมูลนี้ อาจกล่าวได้ว่า ผู้หญิงมีบทบาทในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มมาก สังเกตได้จากผู้หญิงมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทย ทั้งในรูปจำนวนกรรมการและที่นั่งกรรมการ

[1] จำนวนที่นั่งกรรมการ นับรวมที่นั่งของกรรมการทุกบริษัทที่ทำการศึกษารวมกัน ขณะที่จำนวนกรรมการ พิจารณารายคนทั้งตลาด ไม่มีการนับซ้ำ อาทิ บุคคล 1 ราย เป็นกรรมการใน 2 บริษัท จะนับเป็นกรรมการ 1ราย รวม 2 ที่นั่งกรรมการ เป็นต้น

บริษัทจดทะเบียนไทยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้หญิงให้มีบทบาทในคณะกรรมการบริษัทเพิ่มขึ้น สังเกตได้จาก สัดส่วนของบริษัทจดทะเบียนที่มีผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคน ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในช่วงปี 2558 – 2563

จากข้อมูลประจำปี 2563 (ภาพที่ 1) พบว่า ณ สิ้นปี 2563 พบว่า 87.3% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดได้แต่งตั้งผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบริษัท ซึ่งจากฐานข้อมูลที่ฝ่ายวิจัยรวบรวมพบว่า สัดส่วนนี้มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2558 ที่มีบริษัทจดทะเบียนเพียง 79.4% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดได้แต่งตั้งผู้หญิงอย่างน้อย   1 คน ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบริษัท

กรรมการผู้หญิง

เมื่อพิจารณาความหลากหลายของเพศ (gender diversity) ร่วมกับข้อมูลประเภทกรรมการ (director type) ตามเกณฑ์ที่ระบุในแบบสำรวจในการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report: CGR) ว่า คณะกรรมการมีกรรมการอิสระที่เป็นผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน พบว่า ณ สิ้นปี 2563 มีบริษัทจดทะเบียนรวมกว่า 56.2% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดมีการแต่งตั้งผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ดำรงตำแหน่งกรรมการโดยเป็น “กรรมการอิสระ” ในคณะกรรมการบริษัท และสัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2558 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 47.8% เท่านั้น (ภาพที่ 1)

ณ สิ้นปี 2563 พบว่า  24% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ที่มีกรรมการเป็นผู้หญิงมากกว่า 30 % ของจำนวนกรรมการทั้งชุด

ตามเป้าหมายปี 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่สนับสนุนให้ผู้หญิงในบทบาทในคณะกรรมการบริษัทเพิ่มมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายว่า “30% ของบริษัทจดทะเบียนไทยมีกรรมการหญิงอย่างน้อย 30% ของจำนวนคณะกรรมการทั้งคณะ” ซึ่งจากการศึกษาโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทย ณ สิ้นปี 2563 (ภาพที่ 2) พบว่า 24% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดในตลาดหุ้นไทยมีสัดส่วนจำนวนกรรมการผู้หญิงในคณะกรรมการมากกว่า 30% ของจำนวนคณะกรรมการทั้งชุด 

กรรมการผู้หญิง

และจากการศึกษานี้ยังพบว่า 13% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดที่ยังไม่มีกรรมการที่เป็นผู้หญิง ขณะที่ส่วนใหญ่ (ประมาณ 30% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด) มีกรรมการที่เป็นผู้หญิงอยู่ในช่วง มากกว่า10% แต่ไม่เกิน 20%” และค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 21% ของจำนวนกรรมการในคณะกรรมการทั้งชุด (ภาพที่ 2) ขณะที่บริษัทจดทะเบียนที่มีกรรมการที่เป็นผู้หญิงในสัดส่วนสูงสุดอยู่ที่ 67% ของจำนวนกรรมการในคณะกรรมการบริษัททั้งชุด

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้หญิงมีบทบาทในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่ผู้หญิงดำรงตำแหน่งเป็น “ประธานกรรมการ” (chairman of board director) หรือหัวหน้าของคณะกรรมการทั้งชุด โดย ณ สิ้นปี 2563 มี 57 บริษัท ที่มีผู้หญิงเป็น “ประธานกรรมการ” (chairman of board director) หรือ คิดเป็น 8.4% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่อยู่ที่ 47 บริษัท 6.9% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 

ขณะที่บทบาทผู้หญิงในด้านการบริหารจัดการ (management) ลดลงเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากผู้หญิงที่เป็นผู้บริหารอันดับสูงสุดขององค์กร (ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการ กรรมการผู้อำนวยการ หรือตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกันหรือเทียบเท่า) ณ สิ้นปี 2563 ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปี 2562 โดย ณ สิ้นปี 2563 มีผู้หญิงเป็นผู้บริหารอันดับสูงสุดของบริษัท จำนวน 101 บริษัท คิดเป็น 13.8% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด ลดลงจากจำนวน 105 บริษัท คิดเป็น 14.8%

กล่าวโดยสรุป การส่งเสริมผู้หญิงให้มีบทบาทในเวทีต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งเวทีระดับโลก ภูมิภาค หรือระดับบริษัท เพื่อส่งเสริมการหลายหลายทางเพศ (gender diversity) หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการได้ออกข้อเสนอแนะต่างๆ ให้บริษัทจดทะเบียนได้มีการปรับตัวตาม ซึ่งจากการศึกษา พบว่า ผู้หญิงไทยมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะกรรมการของคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนไทย ทั้งด้านจำนวนและสัดส่วนของผู้หญิงในคณะกรรมการบริษัท และมีบทบาทผู้นำ (leadership) ในบริษัทจดทะเบียนไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งในฐานะ “ประธานกรรมการ” หรือ “ผู้บริหารระดับสูงสุด” ของบริษัทจดทะเบียน  แต่หากเปรียบเทียบกับเป้าหมายและข้อเสนอะแนะต่างๆ แล้ว บริษัทจดทะเบียนไทยยังสามารถเพิ่มความหลากหลายทางเพศได้มากยิ่งขึ้น  อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกบุคลากรที่มาทำหน้าที่กรรมการของบริษัทซึ่งถือเป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้น นอกจากด้านความหลากหลายทางเพศแล้ว บริษัทจดทะเบียนควรให้ความสำคัญความหลากหลายในด้านต่างๆ อาทิ ความรู้ มุมมอง ประสบการณ์ ทักษะหรือความสามารถในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น ประกอบการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการบริษัทจดทะเบียนด้วย

ข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ จัดทำขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และแนวคิดแก่ผู้อ่าน มิใช่การให้คำแนะนำด้านการลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมิได้ให้การรับรองในความถูกต้องของข้อมูล และไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น อันเนื่องจากการนำข้อมูลไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดไปใช้อ้างอิง หรือเผยแพร่ไม่ว่าในลักษณะใด นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเติมข้อมูลไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดตามหลักเกณฑ์ที่เห็นสมควร ความเห็นที่ปรากฎในรายงานฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

จัดทำโดย นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Author

  • PR Matter

    เบื้องหลังบทความคุณภาพทุกชิ้นบน พีอาร์แมทเทอร์ (PR Matter Editorial Team) คือ ทีมกองบรรณาธิการที่รวมตัวกันจากนักเขียน นักข่าว นักพีอาร์ และครีเอทีฟผู้มีประสบการณ์จริงในวงการสื่อสาร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ด้วยความมุ่งมั่นในการ “อัปเดตองค์ความรู้ เชื่อมโยงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับนักสื่อสาร นักพีอาร์ นักการตลาด และผู้นำองค์กรทั่วประเทศ พวกเราจึงใส่ใจในทุกถ้อยคำ ตรวจสอบทุกข้อมูล และเขียนทุกบทความด้วยหัวใจของมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญของทีม ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์ การสื่อสารองค์กร การจัดการวิกฤต ไปจนถึงการเล่าเรื่องแบบเจาะลึก ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงสร้างสรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *