fbpx

‘MICS’ ทางรอดของคนไข้หัวใจ? เจาะลึกเทคนิคผ่าตัดแผลเล็ก กับผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย

โรคลิ้นหัวใจและหัวใจเสียหาย เช่น โรคลิ้นหัวใจไมทรัล (Mitral Valve Disease) และโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติก (Aortic Valve Disease) ยังคงเป็นภาระทางสุขภาพของผู้ป่วยทั่วโลก โดยแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่า 20.5 ล้านคน  จุดเปลี่ยนสำคัญล่าสุดคือ “การผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก” (Minimally Invasive Cardiac Surgery หรือ MICS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ใช้แผลขนาดเล็กเพียง 4–10 เซนติเมตร แทนการเปิดหน้าอกแบบมาตรฐาน

โรงพยาบาลรามาธิบดี

ทำไมต้องผ่าตัดหัวใจแบบแผลเล็ก?

1. แผลเล็ก มีผลกระทบต่อร่างกายน้อยกว่า

เทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด (เปิดกระดูกหน้าอกกลางประมาณ 15–20 เซนติเมตร) การผ่าตัดแบบแผลเล็กสามารถหลีกเลี่ยงการตัดหรือหักกระดูกหน้าอก ส่งผลให้เสียเลือดน้อย, ปวดแผลน้อยกว่า และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ 

2. ฟื้นตัวเร็วกว่า

จากการศึกษาทางการแพทย์ พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจแบบ MICS สามารถออกจากโรงพยาบาลเร็วกว่า โดยบางรายฟื้นตัวไวจนกลับใช้ชีวิตประจำวันในเวลาไม่กี่สัปดาห์…มากกว่าการผ่าตัดแบบเดิมที่อาจใช้เวลา 2–3 เดือน 

3. คุณภาพชีวิตดีขึ้นในระยะสั้นหลังผ่าตัด

การศึกษารายงานว่า ผู้ป่วยหลังผ่าตัดแบบแผลเล็ก มีคะแนนคุณภาพชีวิต (QoL) ดีขึ้นเร็วกว่าและสูงกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มผ่าตัดเปิด ทั้งด้านความเจ็บปวด การขยับตัว และความเป็นอิสระในการดูแลตนเอง

การใช้ในผู้ป่วยจริง: มุมของ รพ.รามาธิบดี และศูนย์หัวใจในไทย

มุมมองจาก รพ.รามาธิบดี

ผศ.นพ.สยาม ค้าเจริญ หัวหน้าทีมศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอกระบุว่า แม้ MICS จะได้รับความสนใจมากเพราะลดบาดแผล ฟื้นตัวเร็ว และกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น แต่ก็ต้องเลือกผู้ป่วยที่เหมาะสม และดำเนินการโดยทีมศัลยแพทย์ที่ผ่านการฝึกฝนมามาก (อย่างน้อย 50–120 ราย)

ผลการวิจัยของรามาธิบดีเกี่ยวกับ ASD

งานวิจัยเปรียบเทียบการปิดรูพรุนผนังกั้นหัวใจห้องบน (ASD Closure) ด้วย MICS เทียบกับการผ่าตัดเปิดดั้งเดิม พบว่า

  • ไม่มีความแตกต่างด้านค่าความดันหลอดเลือด, ซิลัณห์หัวใจ (LVEF)
  • ใช้เวลาเปิดเครื่องหัวใจ (CPB) ยาวกว่าเล็กน้อย
  • MICS เสี่ยงเลือดออกหลังผ่าตัดน้อยกว่า (เลือดระบาย: 270 ml vs 460 ml) และลดความจำเป็นในการให้เลือด (43% vs 85%)
  • ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดไม่แตกต่างกัน เช่น การฉีดสารระงับปวด, การติดเชื้อ 
โรงพยาบาลรามาธิบดี

การผ่าตัดลิ้นหัวใจไมตรัลด้วย MICS

การศึกษาที่ติดตามผู้ป่วยกว่า 1,604 ราย ในระยะเวลา 10 ปี พบว่า

  • อัตราตายภายในโรงพยาบาลต่ำเพียง 1.1%
  • มีการเปลี่ยนมาใช้การผ่าตัดเปิดในระหว่างผ่าตัดเพียง 2.1%
  • อัตราการซ่อมแซมลิ้นหัวใจสูงถึง 95% ของผู้เข้าร่วม

แสดงให้เห็นว่า MICS ไม่เพียงปลอดภัย แต่ยังได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงหรือดีกว่าการผ่าตัดแบบเปิด

การผ่าตัดแบบไหนดี? สถานการณ์ไหนเหมาะกับ MICS?

เหมาะในผู้ป่วยที่:

  • อายุไม่มากและมีโรคแทรกซ้อนน้อย
  • ต้องการฟื้นตัวเร็ว กลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตปกติเร็วขึ้น
  • ไม่ต้องการแผลใหญ่หรือกลไกกระดูกหน้าอก

ไม่เหมาะในผู้ป่วยที่:

  • มีโรคหัวใจหลายตำแหน่ง หรือมีภาวะฉุกเฉิน เช่น ลิ้นหลายจุด, โรคหลอดเลือดตีบเรื้อรัง
  • มีภาวะซับซ้อน เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ, BMI สูง, ร่วมกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
  • ทีมศัลยแพทย์ประสบการณ์น้อย (MICS ต้องใช้เทคนิคแม่นยำ และมีขั้นตอนยากกว่าการผ่าตัดเปิด)

“แพทย์เจ้าของไข้จะเป็นผู้ประเมินแต่ละราย และตัดสินใจบนพื้นฐานผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก”
ผศ.นพ.สยาม เน้น

โรงพยาบาลรามาธิบดี

แนวโน้มในโลก: MICS และโปรแกรม ERAS (Enhanced Recovery After Surgery)

ระบบการฟื้นฟูแบบเร่ง (ERAS) ซึ่งรวมขั้นตอนรีบฟื้นตัวหลายด้าน เช่น การจัดการความเจ็บปวด, โภชนาการ, การฟื้นฟูปอด ร่วมกับ MICS พบว่าช่วยลดผลข้างเคียงระยะสั้น และอาจลดระยะเวลาพักฟื้นเพิ่มอีกอันดี 

ในระดับนานาชาติ มีการนำ MICS มาใช้กับการผ่าตัดลิ้นหัวใจร่วมหลายตำแหน่งได้อย่างปลอดภัย เช่น เทคนิค Miami Method ผ่าน mini-thoracotomy ขวา 

สรุป

หัวข้อTraditional Open SurgeryMICS (Minimally Invasive Cardiac Surgery)
รอยแผล15–20 ซม., ตัดกระดูกหน้าอก4–10 ซม., ไม่ตัดกระดูกหน้าอก
การเสียเลือดมากกว่าน้อยกว่า
ความเจ็บปวดปวดมากปวดน้อยกว่า
การฟื้นตัวใช้เวลา 2–3 เดือนฟื้นตัวเร็วใน 2–8 สัปดาห์
ความเสี่ยงติดเชื้อสูงกว่าน้อยกว่า
ข้อจำกัดการผ่าตัดเหมาะกับหลายกรณีซับซ้อนต้องเลือกผู้ป่วยเป็นพิเศษ
ทีมแพทย์ทั่วไปต้องเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ≥ 50–120 ราย

ข้อควรคำนึงจากทีมแพทย์

  • MICS ไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคหลายชนิดหรือสภาพฉุกเฉิน
  • การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับการประเมินแบบองค์รวมของทีมแพทย์ (Multidisciplinary Heart Team)
  • ศัลยแพทย์ต้องชำนาญ มีเทคนิคและประสบการณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย

สรุปบทเรียนจากทั่วโลก

การผ่าตัดหัวใจแบบแผลเล็ก (MICS) เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ระดับโลกที่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดเปิด แต่มีความได้เปรียบด้านแผล, ความเจ็บ, และการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยและประสิทธิภาพยังคงต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ และการเลือกใช้ในบริบทที่เหมาะสม


FAQs: ‘MICS’ ทางรอดของคนไข้หัวใจ? เจาะลึกเทคนิคผ่าตัดแผลเล็ก กับผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย

Q1: นวัตกรรมการผ่าตัดหัวใจแผลเล็ก (MICS) คืออะไร?

A1: MICS (Minimally Invasive Cardiac Surgery) คือการผ่าตัดหัวใจที่ลดขนาดแผลผ่าตัด ไม่ต้องเปิดหน้าอกหรือตัดกระดูก ลดผลกระทบต่อร่างกาย ฟื้นตัวเร็วกว่าแบบดั้งเดิม

Q2: การผ่าตัดแผลเล็กแตกต่างจากการผ่าตัดหัวใจแบบเดิมอย่างไร?

A2: ผ่าตัดแบบเดิมต้องเปิดหน้าอกยาว 15–20 ซม. และตัดกระดูกหน้าอก ส่วน MICS ใช้แผลขนาดเล็ก 4–10 ซม. ผ่านช่องซี่โครง โดยไม่ตัดกระดูกกลาง

Q3: ผู้ป่วยแบบใดที่เหมาะกับ MICS?

A3: เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง, อายุไม่มาก, ไม่มีโรคร่วมหลายตำแหน่ง และต้องการฟื้นตัวเร็ว

Q4: MICS สามารถรักษาโรคหัวใจชนิดใดได้บ้าง?

A4: ใช้รักษาโรคลิ้นหัวใจ (ไมตรัล/เอออร์ติก), โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ, โรคหลอดเลือดหัวใจ, และเนื้องอกหัวใจบางชนิด

Q5: ความปลอดภัยของ MICS เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด?

A5: MICS มีผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการผ่าตัดเปิด เช่น อัตราการเสียชีวิตต่ำ (~1.1%) และอัตราซ่อมแซมสำเร็จสูง (~95%)

Q6: ผู้ป่วยต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานเท่าไรหลังผ่าตัดแบบ MICS?

A6: โดยเฉลี่ยผู้ป่วยฟื้นตัวภายใน 2–8 สัปดาห์ ซึ่งเร็วกว่าแบบเดิมที่ใช้เวลา 2–3 เดือน

Q7: ความเสี่ยงจากการผ่าตัดแบบ MICS มีอะไรบ้าง?

A7: ความเสี่ยงเช่นเดียวกับการผ่าตัดทั่วไป เช่น เลือดออก, ติดเชื้อ, ภาวะแทรกซ้อนหัวใจ แต่โอกาสเกิดต่ำกว่าแบบเดิมในหลายกรณี

Q8: การผ่าตัดแบบ MICS ต้องใช้ทีมแพทย์แบบใด?

A8: ต้องใช้ศัลยแพทย์ที่ผ่านการฝึกเฉพาะทาง มีประสบการณ์ผ่าตัด MICS อย่างน้อย 50–120 ราย และทีมสหวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ

Q9: MICS เป็นที่นิยมในประเทศใดบ้าง?

A9: เป็นที่นิยมในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น และเริ่มแพร่หลายในโรงพยาบาลชั้นนำของไทย เช่น รามาธิบดี

Q10: มีแนวโน้มใหม่ใดที่เสริมประสิทธิภาพของ MICS?

A10: การใช้ระบบ ERAS (Enhanced Recovery After Surgery) และเทคนิค Transcatheter (เช่น TAVR, MitraClip) ช่วยฟื้นตัวเร็ว ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความปลอดภัย

Author

  • PR Matter

    เบื้องหลังบทความคุณภาพทุกชิ้นบน พีอาร์แมทเทอร์ (PR Matter Editorial Team) คือ ทีมกองบรรณาธิการที่รวมตัวกันจากนักเขียน นักข่าว นักพีอาร์ และครีเอทีฟผู้มีประสบการณ์จริงในวงการสื่อสาร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ด้วยความมุ่งมั่นในการ “อัปเดตองค์ความรู้ เชื่อมโยงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับนักสื่อสาร นักพีอาร์ นักการตลาด และผู้นำองค์กรทั่วประเทศ พวกเราจึงใส่ใจในทุกถ้อยคำ ตรวจสอบทุกข้อมูล และเขียนทุกบทความด้วยหัวใจของมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญของทีม ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์ การสื่อสารองค์กร การจัดการวิกฤต ไปจนถึงการเล่าเรื่องแบบเจาะลึก ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงสร้างสรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *