fbpx

โรคสมองเสื่อม: ความเสี่ยงในกลุ่มวัยทำงานที่ไม่ควรมองข้าม

ในแต่ละวัน สมองของเราทำหน้าที่มากกว่าการ “คิด” แต่มันเป็นศูนย์บัญชาการของชีวิต ทั้งการตัดสินใจ การจัดการปัญหา ไปจนถึงการดูแลความสัมพันธ์ในที่ทำงานและครอบครัว หากสมองเริ่มรวนลง แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลต่อความสำเร็จในทุกมิติของชีวิต

โรคสมองเสื่อม หรือ Dementia จึงไม่ใช่เรื่องของผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะแม้จะอยู่ในวัย 30 หรือ 40 ปี ก็สามารถเกิดภาวะนี้ได้ หากไม่ดูแลสุขภาพสมองให้ดี

โรคสมองเสื่อม

สัญญาณเตือนที่หลายคนไม่ทันสังเกต

หากคุณมีความถดถอยบกพร่องในเรื่องความจำ การตัดสินใจ การวางแผน การรับรู้ด้านมิติสัมพันธ์ การใช้ภาษา สมาธิหรือความใส่ใจ ความสามารถในการรับรู้ การเข้าสังคมเปลี่ยนไปจากเดิม อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณแสดงของภาวะสมองเสื่อมได้

นพ.ภัทรวุฒิ เรืองวานิช อายุรแพทย์เฉพาะทางระบบประสาทและสมอง อนุสาขาโรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลหัวเฉียว

คำพูดของแพทย์ท่านนี้บอกเราว่า หากรู้สึกว่า “ตัวเองเปลี่ยนไป” แม้เพียงเล็กน้อยในเรื่องการทำงาน ความจำ หรือการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ต้องหยุดและใส่ใจ

ปัจจัยเสี่ยงในวัยทำงาน: อยู่ในตัวเรามากกว่าที่คิด

สมองเสื่อมอาจดูห่างไกล แต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่หลายคนเคยชิน อาจเป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ บ่อนทำลายสุขภาพสมองโดยไม่รู้ตัว:

  • เครียดเรื้อรัง จากงานที่กดดัน
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • การบริโภคอาหารที่ไม่มีคุณภาพ เช่น ของหวาน อาหารไขมันสูง
  • พฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่

ทั้งหมดนี้อาจทำให้สมองเสื่อมสภาพเร็วขึ้นแม้อายุยังไม่ถึงวัยเกษียณ

ทางรอด: ชะลอไม่ใช่แค่รักษา

แม้ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคสมองเสื่อมให้หายขาด แต่ข่าวดีก็คือ… เราสามารถ ชะลอและควบคุม การดำเนินของโรคได้ ผ่านการดูแลตัวเองในสองด้านควบคู่กันไป ได้แก่:

  • การรักษาด้วยยา: ใช้ยาชะลอการดำเนินของโรคอย่างต่อเนื่อง
  • การดูแลแบบไม่ใช้ยา: เน้นพฤติกรรมที่ดีต่อสมอง เช่น
    • ออกกำลังกายเป็นประจำ
    • พักผ่อนอย่างเพียงพอ
    • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะวิตามิน B, B12, กรดโฟลิก
    • ฝึกสมองผ่านเกมภาษา การคำนวณ หรือเรียนสิ่งใหม่

10 วิธีง่ายๆ ที่วัยทำงานควรทำทันที

  1. นอนให้พอ – ไม่ต่ำกว่า 7–8 ชั่วโมงต่อคืน
  2. กินดี – เน้นผักใบเขียว เบอร์รี่ ปลา และถั่ว
  3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ – สัปดาห์ละ 150 นาที
  4. เลิกบุหรี่–เหล้า – ลดการอักเสบในสมอง
  5. ฝึกสมองทุกวัน – เล่นเกม อ่านหนังสือ หรือฝึกภาษา
  6. พบแพทย์เป็นประจำ – ตรวจสุขภาพประจำปี
  7. เชื่อมต่อสังคม – พูดคุย พบเพื่อน เติมความสุข
  8. คลายเครียดอย่างมีระบบ – ฝึกสมาธิ หายใจลึก
  9. มีเป้าหมายในชีวิต – ช่วยลดโอกาสสมองเสื่อมได้จริง
  10. จัดเวลานอนให้ตรงเวลา – วงจรนอนสม่ำเสมอลดความเสี่ยงโรคได้

จบแบบไม่เศร้า: สมองดี ชีวิตก็สมดุล

การดูแลสมอง ไม่จำเป็นต้องเริ่มเมื่อสายไป คุณสามารถเริ่มได้ทันทีจากการนอนให้เต็มที่ ออกกำลังกายง่าย ๆ หรือแม้แต่การเล่นเกมเล็ก ๆ ก็มีผลอย่างมากต่อสมอง

แม้โลกทำงานจะวิ่งเร็วแค่ไหน แต่สมองของคุณควรได้รับ “พื้นที่ปลอดภัย” เพื่อฟื้นตัว และดำเนินชีวิตต่ออย่างเต็มประสิทธิภาพ


FAQS: โรคสมองเสื่อม: ความเสี่ยงในกลุ่มวัยทำงานที่ไม่ควรมองข้าม

Q1: โรคสมองเสื่อมคืออะไร?

A1: โรคสมองเสื่อม (Dementia) คือภาวะที่สมองเสื่อมถอย ทำให้ความจำ ความคิด และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยไม่ได้จำกัดแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น

Q2: วัยทำงานมีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมหรือไม่?

A2: มีโอกาส แม้พบได้น้อยกว่าในผู้สูงอายุ แต่พฤติกรรมที่ส่งผลต่อสมอง เช่น ความเครียด นอนน้อย ขาดการออกกำลังกาย สามารถเร่งให้เกิดอาการได้ในวัยทำงาน

Q3: สัญญาณเตือนโรคสมองเสื่อมในวัยทำงานมีอะไรบ้าง?

A3: เช่น ลืมบ่อยโดยไม่มีสาเหตุ ใช้คำพูดผิดปกติ สมาธิลดลง ตัดสินใจช้า และจัดลำดับงานผิดพลาดจากสิ่งที่เคยทำได้ดี

Q4: ปัจจัยเสี่ยงหลักของวัยทำงานที่นำไปสู่โรคสมองเสื่อมคืออะไร?

A4: ความเครียดเรื้อรัง การนอนน้อย พฤติกรรมสุขภาพไม่เหมาะสม เช่น ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และกินอาหารไขมันสูง

Q5: นพ.ภัทรวุฒิ แนะนำอย่างไรเกี่ยวกับการสังเกตอาการเริ่มต้น?

A5: หากพบการเปลี่ยนแปลงในความจำ การตัดสินใจ หรือการเข้าสังคมที่ไม่เหมือนเดิม ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของภาวะสมองเสื่อม

Q6: วิธีดูแลและป้องกันโรคสมองเสื่อมมีอะไรบ้าง?

A6: นอนพักให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ฝึกสมองอย่างสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปี

Q7: อาหารประเภทใดช่วยลดความเสี่ยงสมองเสื่อม?

A7: อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว เบอร์รี่ ถั่ว ปลาแซลมอน และงดของหวานหรือไขมันทรานส์

Q8: ทำไมการนอนอย่างมีคุณภาพจึงสำคัญต่อสมอง?

A8: การนอนช่วยให้สมองฟื้นฟูความจำ ลดการอักเสบ และกำจัดสารพิษที่สะสม หากนอนไม่พอเสี่ยงสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นถึง 40%

Q9: การออกกำลังกายมีผลต่อโรคสมองเสื่อมอย่างไร?

A9: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในสมอง ลดความเสี่ยงสมองเสื่อมลง 30–40% และส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท

Q10: หากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง ควรทำอย่างไร?

A10: ควรพบแพทย์เฉพาะทางระบบประสาทเพื่อประเมินอาการอย่างละเอียด และเริ่มต้นแนวทางดูแลทั้งแบบใช้ยาและไม่ใช้ยาโดยเร็วที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *