fbpx

Taste the Wonders of Australia โดย เชฟอาร์ต ฤทธิพล หิรัญยพิสุทธิกุล

เมื่อกระแสความนิยมด้านอาหารในปีนี้มุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางอาหารเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเริ่มหันมาตระหนักถึงผลกระทบของอุตสาหกรรมอาหารที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของเรา ทำให้ความต้องการอาหารที่มีคุณภาพดีต่อสุขภาพ ที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีอัตราเพิ่มสูงตามไปด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของอุตสาหกรรมอาหารแถวหน้าของโลกอย่างออสเตรเลียจะตอบรับต่อกระแสนี้ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชั่นการผลิตอาหารแนวใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกและเมื่อไม่นานมานี้ได้จัดกิจกรรม “Taste the Wonders of Australia” ณ ใจกลางเมืองมหานคร

โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและไวน์ระดับพรีเมียมจากออสเตรเลียแก่ผู้บริโภคและผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของเมืองไทย ให้ได้สัมผัสถึงคุณภาพ ความสดใหม่ รสชาติแสนอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ และข้อมูลกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Australia

ออสเตรเลียได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดโรค มีความปลอดภัยทางอาหารสูงและ ดำเนินงานบนห่วงโซ่อุปทานอาหารที่มีความโปร่งใส มีกฎระเบียบควบคุมที่เข้มงวด และการตรวจสอบที่รัดกุม ทั้งยังมีประวัติทางการเกษตรที่ยาวนานผนวกกับการวิจัยและพัฒนาด้านอาหารและเครื่องดื่มที่จริงจัง ทำให้ออสเตรเลียมีเทคนิคและเทคโนโลยีทางการเกษตรที่ล้ำสมัย ตลอดจนใช้เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงได้อย่างเชี่ยวชาญ ทำให้ประเทศสามารถผลิตอาหารระดับพรีเมียมได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดอาหารโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งในวันนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารเกรดพรีเมียมได้มีการนำเข้าและสามารถหาซื้อได้อย่างสะดวกสบายแล้วในเมืองไทย

สำหรับไวน์จากออสเตรเลียเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติโดดเด่นถูกใจคนไทยมาช้านาน เพราะผลิตจากผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพสูงในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่เพียงแค่นั้น ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารและไวน์ออสเตรเลียก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย! เนื่องจากเป็นอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมนี้ถูกจริตคนไทยที่มักเลือกใช้เครื่องปรุงที่สดใหม่เท่านั้นในการรังสรรค์อาหารรสเลิศ ดังนั้น วัตถุดิบจากออสเตรเลียจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งในการปรุงเมนูอาหารไทยโดยที่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติต้นตำรับได้อย่างเต็มอรรถรส

ภายในงาน Taste the Wonders of Australia โรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี ได้มาร่วมสาธิตการใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากออสเตรเลียในการปรุงอาหารไทยแบบง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำตามได้ นั่นคือเมนูยำรสเด็ดที่ใช้อาหารทะเลและผลไม้ตามฤดูกาลจากออสเตรเลีย โดย เชฟอาร์ต ฤทธิพล หิรัญยพิสุทธิกุล แห่งโรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี กล่าวว่า “หากคุณเป็นคนรักอาหารทะเล คุณต้องชอบเมนูยำจานนี้อย่างแน่นอน แถมยังปรุงได้ง่ายแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นเชฟมืออาชีพก็ตาม แล้ววัตถุดิบลับของผมคืออะไร? ก็อาหารทะเลสด ๆ และผลไม้ตามฤดูกาลจากออสเตรเลียครับ ผมอยากให้ทุกคนลองทำเมนูนี้ แล้วจะรู้ว่าการปรุงยำแบบไทย ๆ ที่บ้านนั้นทำได้เร็วและง่ายมาก เมื่อใช้อาหารทะเลจากออสเตรเลียซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกถึงความสดใหม่และความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม แถมรสชาติชั้นเลิศของวัตถุดิบก็จะยิ่งเสริมให้เมนูยำอร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับเมนูที่ปรุงในงานนี้เราใช้ร็อคล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย ปลาเทราต์จากทัสมาเนีย ปลาทูน่าครีบน้ำเงินจากตอนใต้ หอยเป๋าฮื้อ และหอยแมลงภู่ ซึ่งทั้งหมดมีรสชาติที่เข้ากันกับผลไม้ตามฤดูกาลของออสเตรเลียได้อย่างลงตัว ทั้งโซลูน่าแอปเปิล รวมถึงลูกแพร์เรดแองเจิ้ล หรือลูกแพร์เขียวแพ็กแฮม สตอเบอรรี่ และซิตรัส ซึ่งต้องขอบคุณความหลากหลายของภูมิอากาศในออสเตรเลียที่ทำให้ประเทศนี้มีพืชผักผลไม้และถั่วแตกต่างกันไปแทบจะไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดูกาล”

เชฟอาร์ตยังเชิญชวนให้ทุกคนลองทำอาหารเองที่บ้านเพื่อลิ้มรสชาติต้นตำรับออสเตรเลีย “เชื่อว่าหากคุณลองทำเมนูแสนง่ายนี้แล้ว คุณจะประทับใจกับฝีมือการทำอาหารของตัวเอง แถมยังได้สัมผัสรสชาติวัตถุดิบที่ดีเยี่ยม โดยยังคงรสชาติยำแบบไทยแท้ ๆ ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของอาหารไทยที่สามารถประยุกต์ใช้วัตถุดิบคุณภาพจากแหล่งอื่น ๆ ได้แบบไร้ข้อจำกัด”  

Australia

ยำทะเลใส่ผลไม้รวมสไตล์ออสซี่

วัตถุดิบ                                                                                                                                                                                

  • เนื้อร็อคล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย 80 กรัม
  • ปลาเทราต์จากทัสมาเนีย 120 กรัม
  • ปลาทูน่าครีบน้ำเงินจากตอนใต้ออสเตรเลีย 80 กรัม
  • หอยเป๋าฮื้อ 70 กรัม
  • หอยแมลงภู่ 2-3 ชิ้น
  • โซลูน่าแอปเปิล 30 กรัม
  • ลูกแพร์แดงเรดแองเจิ้ล หรือลูกแพร์เขียวกแฮม 30 กรัม
  • หอมหัวใหญ่ 15 กรัม
  • มะเขือเทศ 15 กรัม
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักคึ่นช่ายหรือผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาวสด 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูไทย 4-5 เม็ด

วิธีการปรุงง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 จับมีดเอียง 45° กับเขียง แล่ชิ้นปลาเทราต์และทูน่าตามขวางกับลายทแยงให้เป็นชิ้นบาง ๆ (ห้ามแล่บางกว่า ¼ นิ้ว) ใช้หัวพ่นไฟค่อย ๆ เผาชิ้นปลาเทราต์และทูน่าพอให้ส่วนขอบไหม้เล็กน้อยเพื่อให้น้ำมันปลาละลายขึ้นมาจับบนชิ้นเนื้อ กะระยะให้ส่วนปลายของเปลวไฟอยู่เหนือเนื้อปลาประมาณ 1 นิ้วและใช้เวลาเผาประมาณ 15 วินาที ระหว่างนี้ อบหอยแมลงภู่และหอยเป๋าฮื้อประมาณ 3-4 นาที หลังจากนั้นหันมาปรุงเนื้อร็อคล็อบสเตอร์และพักไว้ให้เย็น โดยเมื่อร็อคล็อบสเตอร์สุก จะม้วนตัวเล็กน้อยและเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ส่วนเนื้อที่ใสจะเปลี่ยนเป็นสีขาว แกะเนื้อออกจากเปลือกและตัดเป็นชิ้นพอดีคำ

ขั้นตอนที่ 2 หันมาเตรียมเครื่องปรุง โดยหั่นหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ลูกแพร์ สตอเบอรรี่ ซิตรัส และแอปเปิ้ลทีละครึ่งลูกให้เป็นชิ้น ๆ ซอยต้นหอม ผักคื่นช่ายหรือผักชี ค่อย ๆ ใช้ด้ามมีดบดเม็ดพริกขี้หนูแดงให้แตกเพื่อให้ปล่อยความเผ็ดออกมา

ขั้นตอนที่ 3 ผสมน้ำยำในชามขนาดใหญ่ โดยคนน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล และพริกขี้หนูให้เข้ากัน ใส่เนื้อและส่วนผสมลงในชาม (อาหารทะเล ผลไม้และผักต่าง ๆ ) คนให้ทุกอย่างชุ่มน้ำยำ และตักเสิร์ฟ

ไวน์แนะนำสำหรับจับคู่กับอาหาร: เพื่อสร้างประสบการณ์แห่งรสชาติที่สมบูรณ์แบบและเสริมรสชาติของเมนูยำทะเลให้เต็มเปี่ยม รับประทานคู่กับไวน์Australian Riesling เย็น ๆ ด้วยความเปรี้ยวแบบไลม์และมะนาวสไตล์คลาสสิกและกลิ่นหอมหวานแนวดอกไม้จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับยำจานนี้อย่างมาก รวมถึงความเข้มข้นของรสผลไม้และความหวานอ่อน ๆ ยังช่วยลดความเผ็ดร้อนได้อย่างดีเยี่ยมและกลมกล่อม

Australia

Author

  • PR Matter

    เบื้องหลังบทความคุณภาพทุกชิ้นบน พีอาร์แมทเทอร์ (PR Matter Editorial Team) คือ ทีมกองบรรณาธิการที่รวมตัวกันจากนักเขียน นักข่าว นักพีอาร์ และครีเอทีฟผู้มีประสบการณ์จริงในวงการสื่อสาร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    ด้วยความมุ่งมั่นในการ “อัปเดตองค์ความรู้ เชื่อมโยงกลยุทธ์ สร้างแรงบันดาลใจ” ให้กับนักสื่อสาร นักพีอาร์ นักการตลาด และผู้นำองค์กรทั่วประเทศ พวกเราจึงใส่ใจในทุกถ้อยคำ ตรวจสอบทุกข้อมูล และเขียนทุกบทความด้วยหัวใจของมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญของทีม ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์ การสื่อสารองค์กร การจัดการวิกฤต ไปจนถึงการเล่าเรื่องแบบเจาะลึก ทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงสร้างสรรค์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *