fbpx

เสียงไรเดอร์ระงม! ระบบไม่พร้อม กฎหมายล้าสมัย วอนรัฐรับฟัง

เมื่อรัฐบาลมีแผนที่จะดำเนินการตามประกาศของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 เพื่อให้ผู้ขับขี่บริการแพลตฟอร์ม (ไรเดอร์) ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทางกฎหมายและระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ครบถ้วน ความกังวลจากกลุ่มผู้ขับได้ดังขึ้นทั่วประเทศ โดยเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงระบบและกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงก่อนที่จะเข้าสู่การบังคับใช้เต็มรูปแบบ

เสียงจากหลายจังหวัด ยืนยันว่า ระบบที่มีอยู่ยังไม่เอื้อต่อการปฏิบัติตามจริง และหากไม่รีบแก้ไข อาจนำมาซึ่งผลกระทบรุนแรงต่ออาชีพผู้ขับและเศรษฐกิจโดยรวม

ไรเดอร์

ปัญหาเชิงระบบที่ผู้ขับเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

จากการสำรวจและการสะท้อนปัญหาจากตัวแทนผู้ขับจากหลายจังหวัด พบว่า ปัญหาหลัก ๆ ที่เกิดขึ้น มีดังนี้:

1. การจองคิวทำใบขับขี่สาธารณะ

  • ผู้ขับหลายแห่งต้องรอคิวนานนับเดือน
  • แม้จะทำขั้นตอนเสร็จก่อนวันนัดหมาย ระบบไม่สามารถตัดคิวอัตโนมัติ ทำให้สิทธิ์ “ถูกปล่อยทิ้ง” โดยเปล่าประโยชน์
  • ในบางพื้นที่เจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ขับไม่สามารถ walk‑in เข้าไปดำเนินการได้ง่าย

2. การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม

  • ปัจจุบันใช้เวลาหลายสัปดาห์
  • ต่างจากอดีตที่ระบบเคยเชื่อมโยงกับกรมราชทัณฑ์ ทำให้สามารถตรวจสอบได้ภายในวันเดียว
  • ความล่าช้าเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินตามข้อกฎหมายในเวลาอันจำกัด

3. การจัดการเอกสาร

  • ยังคงใช้เอกสาร “ฉบับจริง” ที่ผู้ขับต้องนำไปยื่นด้วยตนเอง
  • ระบบดิจิทัลที่ควรเชื่อมโยงกับบริษัทลีสซิ่งหรือระบบสินเชื่อรถยนต์ยังไม่ครบถ้วน
  • ความเสี่ยงในการตกหล่นหรือซ้ำซ้อนของเอกสารสูง

เสียงสะท้อนจากผู้แทนไรเดอร์ ­

เพื่อให้เห็นภาพรวมของปัญหาและข้อเสนอแนะอย่างชัดเจน นี่คือเสียงของผู้แทนไรเดอร์จากหลายจังหวัด:

  • มณฑิตา ประดิษฐผล (กรุงเทพฯ)
    “พวกเราอยากทำงานถูกต้องตามกฎหมาย แต่ระบบไม่เอื้อต่อการปฏิบัติจริง รัฐควรเพิ่มโควต้า ปรับปรุงระบบจองคิวและทำให้ขั้นตอนการจดทะเบียนง่ายขึ้น เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ถูกตัดโอกาส”
  • กอปรกิจ ไชยปุริวงศ์ (ภูเก็ต)
    “ภูเก็ตคือเมืองท่องเที่ยว หากไรเดอร์ถูกบล็อกออกจากระบบจะกระทบทั้งนักท่องเที่ยว ภาคบริการ และเศรษฐกิจท้องถิ่น รัฐควรทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มและท้องถิ่นอย่างเชิงรุก”
  • ณัฐดนัย มงคลพงศกร (เชียงใหม่)
    “ข้อจำกัดเรื่องความจุเครื่องยนต์ไม่เกิน 125cc ทำให้ไรเดอร์จำนวนมากติดปัญหา แท้จริงแล้วรถที่มี CC สูงกว่าย่อมมีความปลอดภัยและเหมาะสำหรับงานมากกว่า”
  • ทศพร คำอ้อ (ชลบุรี)
    “หลายกรณีผู้ขับรถจักรยานยนต์ไม่ใช่เจ้าของรถเอง แต่กฎหมายกลับไม่อนุญาตให้จดทะเบียนในชื่อผู้เช่าซื้อหรือผู้ครอบครอง ซึ่งกลายเป็นความเหลื่อมล้ำที่ไม่ควรเกิดขึ้น”

เสียงสะท้อนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ปัญหาไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง แต่เป็นปัญหาระดับโครงสร้างที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยหน่วยงานส่วนกลางร่วมกับท้องถิ่น

ผลที่อาจเกิดขึ้น หากไม่แก้ไขทันท่วงที

ไรเดอร์

เมื่อกฎหมายและระบบไม่รองรับกับสภาพการณ์จริง มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ขับจำนวนมากจะถูก ระงับบัญชีจากแพลตฟอร์ม สูญเสียรายได้หลักในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ยังอาจเกิดภาวะ หนี้เสียเพิ่มขึ้น และในกรณีรุนแรง อาจนำไปสู่ปัญหาสังคม เช่น การหารายได้ทางอื่นที่ผิดกฎหมาย หรือภาวะความเครียดทางเศรษฐกิจ

ผลกระทบที่สำคัญในภาพรวม ได้แก่

  • การลดลงของแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ
  • การเชื่อมโยงบริการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพลดลง
  • ความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อการบังคับใช้กฎหมายใหม่

ข้อเสนอเชิงนโยบายจากไรเดอร์และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

เพื่อให้การบังคับใช้นโยบายเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ซ้ำเติมผู้ขับ กลุ่มผู้ขับได้เสนอแนวทางที่เป็นรูปธรรม ดังนี้:

  1. เพิ่มประสิทธิภาพระบบจองคิว
    • จัดสรรโควต้าให้เพียงพอกับความต้องการ
    • พัฒนาระบบให้ตัดคิวอัตโนมัติเมื่อผู้ขับดำเนินการล่วงหน้า
    • ปรับระบบเพื่อรองรับ walk‑in ได้ง่ายขึ้นในกรณีฉุกเฉิน
  2. เชื่อมโยงระบบตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
    • สร้างระบบเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ
    • เพิ่มความเร็วและแม่นยำ
    • ผนวกระบบกับบริษัทลีสซิ่งในรูปแบบดิจิทัลครบวงจร
  3. ปรับปรุงกฎหมายล้าสมัย
    • ยกเลิกหรือปรับเงื่อนไขความจุเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์
    • ปรับปรุงขั้นตอนจดทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันให้รวดเร็วและโปร่งใส
    • แก้ไขกรณีผู้ขับไม่ใช่เจ้าของรถ ให้สามารถจดทะเบียนในชื่อผู้เช่าซื้อหรือผู้ครอบครองได้
  4. มาตรการเยียวยา และช่วงเวลาให้ปรับตัว
    • กำหนดระยะเวลาให้ผู้ขับปรับตัวโดยไม่ถูกตัดสิทธิทันที
    • จัดตั้งโครงการช่วยเหลือหรือสนับสนุนต้นทุนในการปรับตัว
    • ประสานงานกับแพลตฟอร์มเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม

ข้อสังเกตและบทวิเคราะห์เชิงโครงสร้าง

การผลักดันนโยบายและกฎหมายใหม่ในภาคบริการดิจิทัล เช่น บริการไรเดอร์ มีความละเอียดอ่อนทางเศรษฐกิจและสังคม
หากไม่ได้ออกแบบให้เข้ากับความจริงของพื้นที่และความสามารถของผู้ปฏิบัติงาน อาจนำไปสู่ ช่องว่างทางกฎหมาย และ การบังคับใช้ที่ไม่สม่ำเสมอ

นอกจากนี้ ความล่าช้าของระบบและการจัดการเอกสารยังเป็นตัวบ่งชี้ว่า การใช้เทคโนโลยีแบบ “ปลายเปิด” (open system) ที่หน่วยงานรัฐสามารถเชื่อมโยงข้อมูลในระดับฐานข้อมูลร่วมอาจเป็นทางออกที่ดี

ในแง่เศรษฐศาสตร์ อาชีพผู้ขับไรเดอร์เป็นส่วนหนึ่งของแรงงานที่มีความยืดหยุ่น (gig economy) การสร้างระบบที่เอื้อต่ออาชีพนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ ลดช่องว่างการเข้าถึงงาน และรักษาเสถียรภาพในภาคการให้บริการแก่ประชาชน

ท้ายที่สุดแล้ว หากรัฐไม่ดำเนินการปรับปรุงเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง โอกาสที่นโยบายจะล้มเหลว ไม่สามารถบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือสร้างแรงเสียดทานทางสังคมก็มีสูง

ไรเดอร์

บทสรุป

การเรียกร้องของไรเดอร์ทั่วประเทศครั้งนี้มิได้เป็นเพียงการประท้วง ผลกระทบเฉพาะกลุ่ม แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นของการปรับระบบสาธารณะให้ทันสมัยและเป็นธรรม รัฐบาลจำเป็นต้องตอบสนองด้วย การแก้ไขเชิงโครงสร้าง ทั้งระบบ ดิจิทัล กฎหมาย และมาตรการชั่วคราว เพื่อให้ผู้ขับสามารถเข้าสู่ระบบอย่างถูกกฎหมายได้โดยไม่ถูกตัดโอกาส เพราะเมื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การบริหารจัดการในระยะเปลี่ยนผ่านจึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสาระของนโยบายเอง


FAQs: เสียงไรเดอร์ระงม! ระบบไม่พร้อม กฎหมายล้าสมัย วอนรัฐรับฟัง

Q1: ทำไมไรเดอร์ถึงออกมาเรียกร้องให้รัฐปรับปรุงระบบและกฎหมายในตอนนี้?
A1: เพราะกฎหมายใหม่จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2568 ขณะที่ระบบการดำเนินการยังไม่พร้อม ทั้งในเรื่องการจองคิว ใบขับขี่ การจดทะเบียน และการตรวจสอบเอกสาร หากไม่แก้ไขทันเวลา ไรเดอร์จำนวนมากอาจถูกระงับบัญชี สูญเสียรายได้ทันที

Q2: ปัญหาหลักที่ไรเดอร์พบจากระบบจองคิวทำใบขับขี่คืออะไร?
A2: ระบบจองคิวมีจำนวนจำกัด ต้องรอคิวนานนับเดือน และระบบไม่สามารถตัดคิวอัตโนมัติเมื่อผู้ขับดำเนินการล่วงหน้า ทำให้คิวถูกทิ้งโดยเปล่าประโยชน์

Q3: การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมล่าช้าอย่างไร?
A3: จากที่เคยตรวจสอบได้ภายในวันเดียว ปัจจุบันต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ เนื่องจากระบบไม่เชื่อมโยงกับกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหมือนเดิม

Q4: ปัญหาเกี่ยวกับการจดทะเบียนรถมีอะไรบ้าง?
A4: ระบบยังใช้เอกสารจริง ไม่มีดิจิทัลเชื่อมต่อกับบริษัทลีสซิ่ง และไม่อนุญาตให้จดทะเบียนในชื่อผู้เช่าซื้อหรือผู้ขับที่ไม่ใช่เจ้าของรถ ต่างจากรถยนต์ 4 ล้อ

Q5: กฎหมายเรื่องความจุเครื่องยนต์มีผลกระทบต่อไรเดอร์อย่างไร?
A5: กฎหมายกำหนดให้ใช้เฉพาะรถไม่เกิน 125cc ซึ่งขัดกับความเป็นจริง เพราะรถที่ใช้งานจริงจำนวนมากมีเครื่องยนต์มากกว่า และเหมาะสมกว่าสำหรับการให้บริการ

Q6: หากไรเดอร์ถูกระงับบัญชี จะเกิดผลกระทบอะไร?
A6: จะสูญเสียรายได้ทันที บางรายอาจกลายเป็นหนี้เสีย ขาดช่องทางในการดูแลครอบครัว และนำไปสู่ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น อาชญากรรมหรือปัญหาสุขภาพจิต

Q7: ข้อเสนอจากไรเดอร์ในการปรับปรุงระบบมีอะไรบ้าง?
A7: ต้องการให้รัฐเพิ่มโควต้า ปรับปรุงระบบจองคิว ตรวจสอบประวัติอย่างรวดเร็ว จัดการเอกสารผ่านระบบดิจิทัล และปรับกฎหมายให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความเป็นจริง

Q8: ทำไมการแก้ปัญหานี้จึงสำคัญในระดับประเทศ?
A8: อาชีพไรเดอร์คือกลไกสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก การที่ระบบและกฎหมายไม่รองรับ จะทำให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อบริการ ผู้บริโภค และเศรษฐกิจท้องถิ่นทั่วประเทศ

Q9: บทบาทของหน่วยงานรัฐและแพลตฟอร์มควรเป็นอย่างไร?
A9: ต้องทำงานร่วมกันแบบเชิงรุก พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล สื่อสารกับผู้ขับอย่างต่อเนื่อง และให้เวลาปรับตัวก่อนบังคับใช้กฎหมายเต็มรูปแบบ

Q10: บทความนี้ต้องการสื่อสารสาระสำคัญใดกับสาธารณชน?
A10: รัฐควรเห็นความสำคัญของการปรับปรุงระบบก่อนบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปกป้องอาชีพไรเดอร์ ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสร้างความเป็นธรรมในระบบดิจิทัลของไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *